บทความล่าสุด

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฏาคม 2552

และแล้ว หลวงพ่อปากแดงก็แผลงฤทธิ์เดชให้เห็นกันอีกงวดหนึ่งแล้วนะคะ ให้เลขถูกทั้ง ชุดที่ 1 และ 2 เลย ก็คือ 66 และ 42 นั่นเองค่ะ

ชุด ที่ 1 ให้เลขที่ถูก คือ 66




ชุดที่ 2 ให้เลขที่ถูกคือ 42




ไปตรวจรางวัลกันเลยค่ะ

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฏาคม 2552

(คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ค่ะ)

อ่านต่อ..

รับสมัครสอบแข่งขันบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี เป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน

เอาข่าวมาฝากกันค่ะ สำหรับผู้ที่สนใจนะคะ จะมีการรับสมัครบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี เป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ประจำปี 2552 (สายป้องกันปราบปรามและสายอำนวยการ)


คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครที่ควรทราบ
1. ผู้สมัครต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปี – 35 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันปิดรับสมัคร (เกิดระหว่างวันที่ 17 ก.ค.2517 - 17 ก.ค.2534)

2. เปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 1-16 ก.ค. พ.ศ.2552 ไม่เว้นวันหยุดราชการ (ตลอด 24 ชั่วโมง)
- สายป้องกันปราบปราม(ปป.1) รับเฉพาะเพศชาย
- สายอำนวยการและสนับสนุน(อก.2) รับทั้งเพศชาย – หญิง
- ขนาดร่างกาย โดย เพศชาย สูง 160 ซม. ขึ้นไป รอบอกไม่น้อยกว่า 77 ซม. เพศหญิง สูง 150 ซม. ขึ้นไป

3. คุณวุฒิการศึกษาปริญญาตรี
- สายป้องกันปราบปราม(ปป.1) วุฒินิติศาสตร์, รัฐศาสตร์, และรัฐประศาสนศาสตร์ โดยต้องเรียนจบกฎหมาย 3 วิชา มี ป.อาญา, ป.วิอาญาและลักษณะพยาน
- สายอำนวยการและสนับสนุน(อก.2) วุฒิปริญญาตรีทางสังคมศาสตร์หรือเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

4. จำนวนอัตราที่รับสมัคร



5. ขอบเขตพื้นที่จังหวัดที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง
- สายป้องกันปราบปราม (ปป.1)เลือกสมัครหน่วยใดจะได้บรรจุแต่งตั้งในพื้นที่ของหน่วยนั้น
- สายอำนวยการและสนับสนุน (อก.2) สามารถเลือกสมัครและสอบข้อเขียนในหน่วยใดก็ได้ส่วนการบรรจุแต่่งตั้งในพื้นที่ส่วนกลางและตามที่ ตร.กำหนด


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>www.policeadmission.com

อ่านต่อ..

รวมเลขเด็ดชุดสุดท้าย ก่อนหวยออก..

รวมเลขเด็ด จากหลายสำนัก โค้งสุดท้ายก่อนหวยออกวันนี้ค่ะ



เลขเด็ด หนุ่มคลองหอยหลอด สุราษฎร์ธานี







เลขเด็ด เจ้าแม่ตะเคียน ชุด 2 (ชุดแรกอยู่รวมกับเลขหลวงพ่อปากแดง)





เลขเด็ด อาจารย์หนู



เลขเด็ด เสือเพชร ศิษย์อาจารย์หนู

อ่านต่อ..

ตะลึง! หลวงปู่ทิม ร่างไม่เน่า มรณภาพ100วัน



สานุศิษย์ตะลึงปาฏิหาริย์ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว สังขารไม่เน่าเปื่อย ผิวผุดผ่อง เส้นผม เล็บมือ-เท้างอกออกมา ย้ายใส่ไว้ในโลงแก้วประดับมุข ชาวบ้านแห่บูชาเหรียญที่ระลึกหมดเกลี้ยง

เมื่อเวลา 08.09 น. วันนี้ (30 มิ.ย.) พระครูสมุห์สุนทร สุนฺทโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมศพครบ 100 วันการละสังขารของ พระครูสังวรสมณกิจ หรือ หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต อายุ 96 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระขาว ที่มรณภาพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค. 2552 และได้มีการย้ายสังขารจากโลงทึบเดิมมาเป็นโลงแก้วประดับลวดลายมุขสวยงาม อาสนะรองพื้นโลงแก้วเป็นผ้าไหมสีขาวทอลวดลายดอกพิกุลถักดิ้นทอง ที่หลวงปู่ทิม สร้างเตรียมไว้ครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่


โดยบรรยากาศ ช่วงเช้าภายในศาลา บรรดาลูกศิษย์ได้ตกแต่งเครื่องโต๊ะหมู่บูชาด้านหน้าใหม่หมด เนรมิตรให้เป็นสวนสวรรค์ โดยมีรูปหลวงปู่ทิมขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเครื่องตั้งบูชา คณะศิษย์จากสำนักพระราชวังแต่งกายชุดกากี นำโลงแก้วมาตั้งกลางศาลา ท่ามกลางบรรดาประชาชนหลายพันคน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายโลงทึบที่บรรจุหลวงปู่ทิม มาตั้งเทียบเพื่อเตรียมเปิดหีบย้ายลงสู่โลงแก้วประดับมุข และเมื่อเปิดโลงออกมาทุกคนต้องตะลึง เมื่อสังขารหลวงปู่ทิม ไม่เปื่อย ไม่เน่า กลับผุดผ่องเหมือนครั้งยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่เส้นผม เล็บมือและเล็บเท้างอกยาวออกมา และยังมีกลิ่นชานหมากลอยฟุ้งออกมา ผสมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ กระจายทั่วบริเวณศาลา ทำให้ผู้ร่วมพีธีทั้งหมดต่างเปล่งวาจาว่าคำว่า "สาธุ" เสียงดังกึกก้องศาลาด้วยความศรัทธา ก่อนจะนำร่างหลวงปู่ทิมย้ายลงโลงแก้วประดับมุข

จากนั้น พระราชวรเวที รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ชักผ้าบังสุกุล กล่าวนำพระสงฆ์จำนวน 32 รูป สวดพระธรรมนิยาม และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีทอดผ้าบังสุกุลถวายตลอดทั้งวัน ซึ่งจะมีการบำเพ็ญกุศลต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค.นี้ และจะเคลื่อนย้ายโลงแก้วหลวงปู่ทิม ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่มณฑปลายรดน้ำ อัตตะ สันตะ มหาเถราจารณ์ ที่หลวงปู่ทิม สร้างเตรียมไว้มูลค่ากว่า 22 ล้านบาท ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ชนรุ่นหลัง

ส่วนบรรยากาศหน้ากุฏิหลวงพ่อ ขาว พบว่ามีประชาชนเบียดเสียดแห่เข้าไปจองวัตถุมงคลหลวงปู่ทิมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเหรียญบรรจุโลงศพหลวงปู่ทิมที่มีอยู่ทั้งหมด 9,000 เหรียญ มีการสั่งจองขอเช่าเป็นจำนวนมากจนไม่เพียงพอแก่ความต้องการของลูกศิษย์และ ประชาชนที่มาร่วมงาน ที่ลานวัดด้านนอกก็พบว่ามีบรรดาแผงพระนำวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม ออกมาวางให้เช่ากันเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบว่ามีบรรดาพ่อค้า แม่ค้าลอตเตอรี่ แห่เข้ามาขายเป็นจำนวนมาก เลขที่ฮือฮาไม่พอขายจะเป็นเลข 96 ซึ่งเป็นอายุของหลวงปู่ทิม และยังมีเลขที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทิมขายดีไม่แพ้กัน ได้แก่เลข 100 , 001 วันครบอายุมรณภาพ เลข 30 วันเปิดโลง เลข 900 ,009 เป็นเลขจำนวนเหรียญที่ระลึกบรรจุไว้ในโลงหลวงปู่ทิม นอกจากนี้ยังนิยมเลข 8 ท้ายล๊อตเตอรี่ด้วย ซึ่งเป็นเลขเหรียญที่ระลึกของหลวงปู่ทิมอายุครบ 8 รอบ ที่ลูกศิษย์นำมาแจกในวันย้ายโลงหลวงปู่ทิม

ที่มา ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

แฟนเพลงไมเคิลคลั่งฆ่าตัวตายตาม 12 ราย-ลูกแจ็คสันเผยคิดว่าพ่อแกล้งตาย



กลุ่มแฟนคลั่งแจ็คสันทำใจไม่ได้ แฟน 12 คนจากทั่วโลกตัดสินใจปลิดชีพตัวเองตายตามราชาเพลงป๊อป แฟนคลับในออสเตรเลียเครียดจัด แห่โทรขอความช่วยเหลือสายด่วน เผยลูกคิดว่าพ่อเล่นแกล้งตาย ขณะนักร้องดังนอนสิ้นลมหายใจบนเตียง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนว่า ข่าวการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป็อป ได้สร้างความตกตะลึงแก่แฟนเพลงจำนวนมาก จนอาจเป็นสาเหตุให้แฟนเพลงผู้คลั่งไคล้เขาประมาณ 12 คนจากทั่วโลกได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ขณะที่มีแฟนเพลงในประเทศออสเตรเลียจำนวนหนึ่ง ถึงขั้นต้องโทรขอความช่วยเหลือจากสายด่วนป้องกันการฆ่าตัวตาย

นายแกรี เทย์เลอร์ หนุ่มลอนดอนซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแฟนคลับออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของไมเคิล เปิดเผยว่า เขาเชื่อว่ามีแฟนเพลงประมาณ 12 คนได้ฆ่าตัวตายตามไมเคิล

"เป็นสถานการณ์ที่น่าห่วงมาก เพราะแฟนๆ เหล่านี้ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด แต่ผมเชื่อมั่นว่าไมเคิลไม่มีทางต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่" เทย์เลอร์ กล่าว

ด้านผู้บริหารสายด่วน ไลฟ์ไลน์ เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายในเมืองจิงโจ้ กล่าวว่า "มีคนโทรเข้ามาปรึกษาสายด่วนเยอะขึ้นอย่างน่าตกใจ หลายคนโทรมาระบายถึงการตายของไมเคิล ผมคิดว่าในบางกรณี การที่คนมีชื่อเสียงตายลง ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเครียดเอามากๆ"

เผยลูกไมเคิลคิดว่าพ่อเล่นแกล้งตาย ขณะสิ้นลมหายใจ

นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ รายงานเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ว่า ลูกๆ ของไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อป นึกว่าไมเคิลเล่นแกล้งตาย ขณะที่เขาได้สิ้นลมหายใจบนเตียงที่บ้านเช่าในเมืองลอสแองเจลิส โดยพวกเขาถูกพวกพี่เลี้ยงนำตัวไปอีกห้องหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาไมเคิลชอบเล่นแกล้งตายกับพวกเขาอยู่บ่อย ๆ เด็กจึงนึกว่าคราวนี้พ่อกำลังเล่นสนุกกับพวกเขากว่าเดิม จนกระทั่งรถพยาบาลฉุกเฉินเข้ามาที่บ้าน และเห็นเจ้าหน้าที่แพทย์วิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของพ่อ พวกเขาก็ต้องเกิดอาการร่างสั่นกลัว พร้อมกับเสียงไซเรนของรถพยาบาลที่ดังตลอด เด็กๆ เริ่มกลัวและเริ่มร้องไห้ที่ได้รู้ว่า พ่อพวกเขาเสียชีวิตแล้ว

รายงานระบุว่า เพื่อปกป้องเด็กๆ จากภาวะช็อคทางจิตใจที่จะเห็นพ่อตัวเองนอนสิ้นลมไม่ไหวติง และถูกนำร่างพร้อมที่หน้ากากครอบอ๊อกซิเจน ปารีส, ปรินซ์ ไมเคิล และปรินซ์ ไมเคิล ที่ 2 ถูกนำตัวไปยังศูนย์การแพทย์ยูซีแอลเอในเมืองลอสแองเจลิสด้วยรถยนต์ของ ลาโทยา แจ็คสัน ผู้เป็นป้า และนางแคทเธอรีน ย่าของพวกเขา โดยเมื่อมาถึงศูนย์การแพทย์ดังกล่าว ครอบครัวแจ็คสันได้พยายามปลอบและเบี่ยงความสนใจพวกเขา โดยให้พวกเขาวาดภาพไมเคิล แจ็คสัน ปลอดภัยดี แม้ว่าไมเคิลจะเสียชีวิตแล้วก็ตาม

ที่มา มติชน

อ่านต่อ..

ช๊อคชาย!! ออม นวดี แต่งไฮโซหนุ่ม 4 ก.ค นี้



"จิ๋ม" มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช ยินดีลูกรัก "ออม" นวดี โมกขะเวส แต่งงาน ชมเปาะแฟนหนุ่มของนักแสดงสาว น่ารัก นิสัยดี เผยให้คำแนะนำการใช้ชีวิตคู่ ต้องซื่อสัตย์ และให้เกียรติกัน

หลังจากเลิกรากับพระเอกหนุ่ม "ชาย" ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ มาพักใหญ่ นักแสดงสาว "ออม" นวดี ก็มีนักธุรกิจหนุ่ม "นัท" มาดูแลหัวใจทันที กระทั่งล่าสุดมีข่าวหนาหูออกมา ว่าเธอวิวาห์ฟ้าแลบไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเตรียมจัดพิธีฉลองสมรสในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ เมื่อสอบถามไปยังผู้จัด "จิ๋ม" มยุรฉัตร นักแสดงรุ่นใหญ่ที่ออมเคารพนับถือนั้น จิ๋มได้เปิดเผยเรื่องนี้ดังนี้

"เขาก็แต่งงานนั่นแหละ น้องออมเอาการ์ดมาเชิญเราไปงาน ก็ดีใจกับเขาด้วย เราก็อวยพรให้เขารักกันนานๆ ถามว่าเคยรู้จักแฟนเขามั้ย จิ๋มไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เท่าที่เห็นเขาก็เป็นคนน่ารัก นิสัยดี เป็นนักธุรกิจ (พิธีแต่งงานจัดยังไง ที่ไหน) ต้องขอบอกว่าเรื่องนี้ ไม่อยากก้าวก่ายเขา เอาไว้ให้เขาบอกเองดีกว่า เพราะเราไม่ได้เป็นเจ้าภาพ เป็นแค่แขกรับเชิญ ถามว่าได้ให้คำแนะนำการใช้ชีวิตคู่กับเขาอย่างไรบ้าง คือเราก็บอกเขาไปว่าต้องซื่อสัตย์ต่อกัน ให้เกียรติกัน" จิ๋มกล่าว

ถามต่อว่า ก่อนหน้านี้ "ออม" นวดี เคยมาปรึกษาเรื่องความรักหรือไม่ ผู้จัดชื่อดังกล่าวว่า ระยะหลังไม่ค่อยได้คุยกับนักแสดงสาวเท่าไหร่ เนื่องจากออมหันไปทำธุรกิจส่วนตัว

"ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้ยุ่งกับเขาเลย เขาก็ไปทำงานของเขา แต่ก็มีปรึกษาบ้าง คือระยะหลังน้องออมไม่ได้เล่นละคร ก็เลยไม่ค่อยได้คุยกัน เขาก็ทำธุรกิจ ไปทำร้านเสื้อของเขา ต้องไปเมืองนอกบ่อย" ผู้จัดวิกหนองแขมกล่าวสรุป


ที่มา คม ชัด ลึก

อ่านต่อ..

พบขนวงกลมขาว 2ขาหลังแพนด้าน้อย หนึ่งเดียวในโลก



ผู้เชี่ยวชาญจีนตะลึง!แพนด้าน้อยสร้างความอัศจรรย์ใจ พบขนวงกลมขาวกลางขนดำ2ขาหลัง นับเป็นตัวเดียวในโลกสามารถบอกได้ว่าเกิดที่ "เมืองไทย" ลุ้นอีกไม่กี่วันจะลืมตาดูโลกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (30มิ.ย.) ว่า บรรยากาศที่สวนสัตว์เชียงใหม่ตลอดเช้าคึกคักมากมีบรรดานักท่องเที่ยว ดาราชื่อดัง ศิลปินล้านนา และผู้ใหญ่ของบ้านเมืองได้พากันเข้ามาเยี่ยมชมส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย โดยนายอมรพันธุ์ นิมานัน ผู้ว่าฯเชียงใหม่ เดินทางมาเป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดพิธีสู่ข้าวเอาขวัญแพนด้าน้อย และเป็นเวลาเดียวกับที่ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้เปิดเพลงน้องน้อยแพนด้า ที่ทางศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้แต่งกาพย์สุรางคนาง มามอบให้ และทางสุนทรี เวชชานนท์ นักร้องศิลปินล้านนาชื่อดัง ได้นำมาร้องขับกล่อมในทำนอง ซอล่องน่าน ได้อย่างไพเราะยิ่ง

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย พร้อมทั้ง สพ.ญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล และนายเว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญจีนได้ทำการแยกแพนด้าน้อยออกมาจากหลินฮุ่ยเพื่อนำมาตรวจสุขภาพ โดยแพนด้าน้อยมีท่าทีร้องเรียกหาแม่เสียงดังลั่น แต่พอชินกับมือพี่เลี้ยงกลับเงียบเสียงและได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสุขภาพ พบว่ามีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงมาก และมีน้ำหนักถึง 1,700 กรัม ความยาวปลายจมูกถึงโคนหาง 35 เซนติเมตร และบริเวณดวงตาแพนด้าน้อยเริ่มจะมีการตอบสนองคล้ายกับการกระพริบตา แต่ว่ายังไม่ลืมตา ทางทีมงานเชื่อว่าไม่กี่วันก็น่าจะลืมตาแล้วและที่สำคัญที่สุดที่ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับทางทีมวิจัยไทยและผู้เชี่ยวชาญจีนที่ได้ตรวจสุขภาพ พบว่าที่บริเวณขนดำขาหลังทั้ง 2 ขาที่มีลักษณะพิเศษต่างจากหมีทั่วไปที่เหมือนกับเด็กใส่ถุงเท้าดำครึ่งขา แต่ยังพบสิ่งที่ถือว่าอาจจะเป็นลูกหมีแพนด้าตัวเดียวในโลกที่ปรากฎว่ามีขนสีขาวเป็นวงกลมกลางขนดำที่ด้านหลังของขาหลังทั้ง 2 ข้าง

นายเว่ยหมิง กล่าวว่า ตั้งแต่เลี้ยงลูกหมีมานับร้อยตัวไม่ปรากฎว่าจะมีลูกหมีตัวไหนที่มีลักษณะเด่นเหมือนแพนด้าน้อยที่เกิดในไทย ต่อไปในอนาคตถ้าแพนด้าน้อยได้กลับไปอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าที่ประเทศจีน ทางเราก็สามารถจำได้ว่าแพนด้าน้อยตัวนี้เกิดในประเทศไทย เพราะวงกลมที่พบถือว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลก สำหรับในวันนี้ทางทีมงานสามารถแยกแพนด้าน้อยจากแม่หลินฮุ่ยได้ถึง 1 ชั่วโมงเต็ม

เมื่อถามว่า ลักษณะพิเศษที่พบถือว่าเป็นหนึ่งเดียวใน โลกหรือไม่ นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า นายเว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญจีนผู้ที่ผ่านการคลอดและเลี้ยงลูกหมีแพนด้ามาและเห็นแพนด้าแทบ จะทุกตัวที่จีนได้ระบุชัดว่าเป็นหนึ่งเดียวอย่างแน่นอนโดยวงกลมขาวที่ขาหลัง ทางศูนย์ฯไทยได้สังเกตมาตั้งแต่อายุใกล้จะ 1 เดือนแต่ไม่เห็นเด่นชัดแต่ก็ดูแปลกตาและที่สำคัญแพนด้าน้อยตัวนี้มีการ พัฒนาการที่ไม่เหมือนแพนด้ารุ่นเดียวกัน

นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจีนได้เห็นว่า ไทยได้ให้ความสำคัญ และให้ความรักกับแพนด้าน้อย ทำให้ความสัมพันธ์ไทยจีนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยในวันที่ 4-6 ก.ค.นี้ จะมีพิธีเฉลิมฉลองสู่ข้าวเอาขวัญแพนด้าน้อย จะได้เห็นว่าชาวเชียงใหม่ได้มีการจัดงานร่วมกัน โดยจะมีกิจกรรมจำนวนมากใครมีการแสดงอะไรก็เอามาช่วยกันร่วมกัน สำหรับแพนด้าน้อยในขณะนี้โตเร็วมาก ตนมักจะเข้ามาเยี่ยมบ่อยๆมีการเจริญเติบโตที่น่าพอใจ อีกไม่กี่วันจะได้เห็นดวงตาคู่ใหม่ของแพนด้าน้อยที่จะลืมตา ซึ่งถือว่าเป็นบรรยากาศเป็นความรู้สึกดีๆแพนด้าน้อยเพียงแค่ 1 เดือนยังน่ารักขนาดนี้ ต่อไปอีก 2-3 เดือนความน่ารักก็จะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

"สำหรับงานพิธีสู่ข้าวเอาขวัญแพนด้าน้อย ในวันที่ 4-5-6 ก.ค.จะมีกิจกรรมมากตลอดทั้งวันทั้งภายในสวนสัตว์และก่อนที่จะมีการตามจุด ต่างๆของเมืองเชียงใหม่ โดยจะมีขบวนตัวมาสคอตสัตว์ต่างๆออกไปเชิญชวนเยี่ยมเยือนตามจุดต่างๆของ เชียงใหม่ทั้งที่สนามบินและตามศูนย์การค้าต่างๆและตลาดสด เพื่อเชิญชวนประชาชนชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวให้เข้ามร่วมในงานกันให้ เยอะในวันที่ 4-5-6 ก.ค.นี้ตนเชื่อว่าจะได้รับความสนใจมาก"ผู้ว่าฯเชียงใหม่กล่าว

นายอมรพันธุ์ กล่าวอีกว่า กระแสแพนด้าน้อยทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากโดยเฉพาะสวนสัตว์เชียงใหม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขมากขึ้น จะเห็นว่าการจราจรบริเวณหน้าสวนสัตว์และทางขึ้นดอยสุเทพผู้คนหนาแน่น ทุกวันเสาร์-อาทิตย์รถติด มีแนวโน้มที่ดีมากและในช่วงนี้ทางเชียงใหม่ก็จัดงานเชียงใหม่แกรนด์เซลล์ ด้วย ผู้ที่เข้ามาเที่ยวเชียงให้ในช่วงนี้นอกจากมาเที่ยวหาแพนด้าน้อยแล้วยัง สามารถจับจ่ายหาซื้อสินค้าได้ในราคาถูกตามร้านค้าต่างๆที่เข้าร่วมโครงการ เชียงใหม่แกรนด์เซลล์ จะมีการลดราคาถึง 60-70%

นางสุนทรี เวชชานนท์ ศิลปินล้านนาชื่อ กล่าวว่า ดีใจที่ได้ร้องเพลงน้องน้อยแพนด้า ที่ทางอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ได้ทำการแต่งมามอบให้แพนด้าน้อย ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ถึงแม้จะมีกระแสที่ออกมามากตามเว็บไซต์ต่างๆว่าเหน็บแนมหมั่นใส้แพนด้าน้อย ถึงขั้นบอกว่าพวกเราบ้าแพนด้าน้อยกันไปหมดแล้ว เรื่องนี้ตนได้พยายามพูดทุกครั้งที่ไปแสดงบนเวทีและพบปะผู้คนว่าขออย่าได้หมั่นใส่หรืออิจฉาแพนด้าน้อย ที่ผ่านมาก็ถือว่าแพนด้าช่วงช่วงกับหลินฮุ่ยถือว่าเป็นคุณูปการของบ้านเรา เพราะแพนด้าที่นำเข้ามีผลไปถึงสัตว์ต่างๆด้วยได้กินอิ่มหมีพลีมันกันไปหมด เงินที่เข้าชมหลินฮุ่ยแลช่วงช่วงนอกจากจะใช้เลี้ยงแพนด้าเองก็ยังส่งผลไปถึง สัตว์อื่นๆด้วยตนถือว่าแพนด้าเป็นสัตว์ที่มีคุณค่ามากสำหรับบ้านเราในเวลานี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การตกแต่งแพนด้าที่นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆทั่วเมือง เชียงใหม่ในขณะนี้ปรากฎว่าทางชาวบ้านจำนวนมากได้แจ้งผ่านตามสื่อต่างๆขอให้ แจ้งต่อผู้ว่าฯเชียงใหม่ว่า หุ่นแพนด้าที่นำมาตั้งไว้รูปร่างและใบหน้ารูปร่างคล้ายหมูมาก จึงขอให้ทางจังหวัดเร่งไปดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้ เพราะดูแล้วไม่จะกลายเป็นเรื่องตลกไป โดยนายอมรพันธุ์ได้รับทราบ จึงได้สั่งการให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแตกแต่งสวนหย่อมแพนด้าเพื่อ ร่วมในงานเฉลิมฉลองแพนด้าน้อยที่จะมีขึ้นไปเร่งตรวจสอบแก้ไขกันใหม่เพื่อให้ มีส่วนคล้ายแพนด้าให้มาก


ที่มา ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ขู่ฆ่า ไชยา มิตรชัย!! ส่งจม.กรรโชกทรัพย์ พระเอกลิเกดัง-ครอบครัว

ไชยา มิตรชัย พระเอกลิเกเงินล้าน

ส่งจดหมายกรรโชกทรัพย์ ขู่เอาชีวิต เอ ไชยา และครอบครัว ขีดเส้นตายจ่าย 5 หมื่นภายใน 30 มิถุนายน พระเอกลิเกดัง ตกใจ-กลัว ไม่รู้มีวัตถุประสงค์อะไร เข้าแจ้งความตำรวจจัดการ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 มิ.ย.นายเสมา สมบูรณ์ หรือไชยา มิตรชัย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 / 4 หมู่ที่ 3 ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พระเอกลิเกเงินล้าน และนักร้องนักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ สมบูรณ์ อายุ 60 ปี บิดา และน.ส.ศิริพร สังข์ทอง อายุ 42 ปี ผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.จิระโชติ กันทะเนตร ร้อยเวรสภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ให้ทำการตรวจสอบและจับกุมผู้ที่ส่งจดหมายลึกลับขู่กันโชกทรัพย์และขู่เอาชีวิต พร้อมนำจดหมายส่งให้เป็นหลักฐาน

สอบสวน ไชยา มิตรชัย กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะทีตนแสดงงานต้านยาเสพติดอยู่ที่ จ.ลพบุรี นั้นน.ส.ศิริพร ได้นำจดหมายที่จ่าหน้าซองด้วยลายมือถึงคุณเสมา สมบูรณ์ ซึ่งเป็นชื่อนามสกุลของตน ตอนแรกตนก็จะไม่เปิดอ่านหลอกเพราะไม่ค่อยชอบอ่านจดหมายและที่สำคัญทุกครั้งที่มีคนเขียนจดหมายมาให้ตนจะใช้ชื่อไชยา มิตรชัย ตนผิดสังเกตุจึงเปิดอ่าน ก็พบว่าข้อความในจดหมายเป็นการขู่กรรโชกทรัพ์โดยเรียกเงิน 5 หมื่นบาท และให้จ่ายภายในวันที่ 30 มิ.ย. เท่านั้นหากไม่ให้จะทำร้าย จึงได้ปรึกษากับทางพ่อและแม่ จึงตกลงเข้าแจ้งความ

ไชยา มิตรชัยกล่าวต่อไปว่า ในจดหมายนั้นเขียนว่า "จดหมายฉบับนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคุณและครอบครัวขอให้คุณจ่ายเงินให้เราด้วยจำนวน 5 หมื่นบาท แล้วทุกคนจะปลอดภัย เพื่อให้เรื่องราวไม่บานปลาย อย่านำเรื่องนี้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือบอกให้ใครรู้ เพราะเงินไม่มากมายอะไร และที่จำต้องเรียกเงิน หรือขอเงินจากคุณ เพราะคุณมีส่วนทำให้ครอบครัวของเรามีปัญหาจากการที่คุณเป็นดารา เป็นนักแสดงมีคนนิยม ให้รางวัลคุณคืนละเป็นล้าน แต่ในจำนวนเงินล้านบาทที่คุณได้รับ ด้วยความดีอกดีใจนั้น มันสร้างความเสียใจ สร้างปัญหาให้กับครอบครัวเราอย่างมาก

ฉะนั้น เราจึงขอเงินจำนวนนี้มา เพราะครอบครัวเราเดือดร้อน พร้อมที่จะทำทุกอย่างหากถูกปฏิเสธ เงินแค่นี้มันคงไม่ทำให้คุณเดือดร้อนหลอก ขอเอาไปทำทุนก็แล้วกัน และขอย้ำอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยอย่าได้แจ้งความและเซาะหาที่มาที่ไปของจดหมายเป็นอันขาดและขอให้คุณให้คำตอบกับเราโดยส่งเป็นข้อความ SMS ไปที่หมายเลข 0838881xxx ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ คำตอบต้องส่งเป็น SMS ไม่มีพูดคุย ถ้าตกลงยินยอมตาที่ขอมา ก็จะติดต่อมาเพื่อจะบอกวิธีการส่งเงิน แต่ถ้าภายในวันที่ 30 มิ.ย. ไม่มีคำตอบจากคุณ ก็แสดงว่าคุณไม่ตกลง อะไรจะเกิดขึ้นก็ยากที่จะคาดเดา ทั้งหมดนี้ก็ขอให้คุณพิจารณาเอาเองว่าจะเอาอย่างไร ถ้าวันดังกล่าวไม่มี SMS ทุกอย่างจบ และลงท้ายว่าหวังว่าคงได้รับความร่วมมืออย่างดี"

"ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถามว่ากลัวไหม ก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา เพราะเราไม่รู้ว่าจดหมายที่เขียนนั้น ผู้เขียนมีจุดประสงค์ใดกันแน่ก็ต้องระวังป้องกันไว้ก่อน"

ด้านน.ส.ศิริพร กล่าวว่า จดหมายที่ส่งมานั้นส่งมายังบ้านเลขที่ 1 ถ.เทศบาล 14 ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งปัจจุบันเป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ซึ่งแต่ก่อนเป็นบ้านพักของ ไชยา มิตรชัย แต่ได้ย้ายไปนานแล้ว ซึ่งบุรุษไปรนีย์จะรู้ว่าหากมีจดหมายถึง ไชยา มิตรชัย ก็จะมาส่งที่บ้านตนโดยอยู่หากจากจวนผู้ว่าไม่เท่าไหร่ พอใด้รับจดหมายตนก็นำไปให้เอ อ่านเพราะปกติจะทำอย่างนี้ตลอด

ส่วนนายสมศักดิ์ ใจกว้าง พ่อพระเอกลิเก กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากเพราะเพิ่งจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตอนแรกเอ จะไม่แจ้งความเพราะคิดว่าคงจะไม่เกิดอะไรขึ้นแต่เพื่อความปลอดภัยก็ต้องแจ้งความเพื่อป้องกัน ในส่วนของจดหมายนั้นที่บอกว่า ไชยา มิตรชัย ทำให้ครอบครัวเขาเดือดร้อน ที่จริงแล้วแม่ยกที่ทางจังหวัดเชียงใหม่ก็มีไม่มากและไม่ค่อยติดต่อกันด้วย ก็คงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนสืบสวนหาที่มาของจดหมายต่อไป

ด้านพ.ต.อ.ระวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบจดหมายทราบว่าปลายทางมาจาก จ.เชียงใหม่ เป็นข้อความที่ขู่กรรโชกทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะต้องหาลายนิ้วมือแฝงจากจดหมายและที่มาอีกครั้ง ที่สำคัญเป็นการเขียนด้วยลายมือคงจะหาได้ไม่อยาก

พ.ต.อ.รวีโรจน์ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ พ.ต.ต.มงคล จิตร์พรหม สว.สส. ร่วมกับ ร.ต.ท.จิรโชติ กันทะเนตร พงส.(สบ.1)ร้อยเวร ตรวจสอบ ที่มาของจดหมายและเร่งหาตัวคนทำดังกล่าวให้ได้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชาชนที่ทราบข่าวดังกล่าวบางคนก็เห็นใจคนที่เขียนจดหมายมาขู่พระเอกลิเกหน้าหวาน เพราะมีบรรดาแม่ยกพ่อยกหลายต่อหลายคนที่ลุ่มหลง เอาเงินเอาทองของครอบครัวมาให้กับพระเอกลิเกที่ตนชื่นชอบ จนไม่นึกถึงความเดือดร้อนของครอบครัว

พระเอกลิเกไชยา ตอนนี้มีผลงานแสดงละครทางช่อง 3 เรื่องเทพบุตรชุดวิน และกำลังจะออกผลงานเพลงในชุดสุดรักสุดบูชาในเร็วๆนี้


ที่มา : ข่าวสด

อ่านต่อ..

คลิป..สาเหตุที่ไมเคิล แจ๊คสัน มีผิวสีขาว น่าสงสารมากๆ

คงเคยได้ยินกันมาบ้างนะคะ ว่าไมเคิล แจ๊คสัน ราชาเพลงป๊อป ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือฉีดสารบางอย่าง เพื่อเปลี่ยนสีผิวจากผิวดำเป็นผิวขาว ซึ่งก็เป็นที่คลางแคลงใจมาตลอดว่า เค้าทำเช่นนั้นเพื่ออะไรกันแน่ วันนี้ไปเจอคลิปใน Youtube ทำให้เพิ่งได้รู้ว่าแท้จริงแล้วที่ผิวของไมเคิลเปลี่ยนจากดำเป็นขาวนั้นเกิดจากการที่เค้าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Vilitigo หรือ โรคด่างขาวนั่นเอง

ไปดูคลิปกันค่ะ

อ่านต่อ..

อั้ม พัชราภา แร๊ง..ง..ง ท้าวู๊ดดี้จับพิสูจน์ ทำหน้าอกรึปล่าว

ไปเจอกระทู้ในพันทิปค่ะ เนื่องจากรายการวู๊ดดี้เกิดมาคุย ได้เชิญแขกรับเชิญสุดสเปเชี่ยล อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ มาคุยกันในรายการ ซึ่งไม่มีการนำเทปนี้ออกอากาศนะคะ เพราะวู๊ดดี้เค้าจัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับแขกรับเชิญและผู้ที่เข้าชมที่ส่ง sms ไปร่วมสนุกในรายการวู๊ดดี้เกิดมาคุยเท่านั้น โดยใช้ชื่องานว่า Feder Venture Party Glow In The Dark

ไฮไลท์ของรายการคงจะเป็นตอนที่ วู๊ดดี้ถามอั้มว่า ทำศัลยกรรมหน้าอกมารึปล่าว อั้มเลยให้วู๊ดดี้พิสูจน์โดยการจับมือวู๊ดดี้มาแตะที่หน้าอก ไปดูภาพกันค่ะ ขอบคุณภาพจากเว็บพันทิปค่ะ



อยากให้รายการวู๊ดดี้เกิดมาคุย นำเทปนี้ออกอากาศจริงๆ ชอบ อั้ม พัชราภา เป็นการส่วนตัวค่ะ เข้าไปชมภาพและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ กระทู้นี้ค่ะ >>http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8023853/A8023853.html

อ่านต่อ..

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อปากแดงเจอดี สังฆทานลูกปืน 9 มม.

หลวงพ่อปากแดง


หลวงพ่อตึ๋ง"เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อปากแดงเจอดี

รับสังฆทานจากญาติโยม ผงะ ลูกปืนขนาด 9 มม.ยัดไส้มากับผ้าอาบน้ำฝน พร้อมกระดาษโน้ตเขียนข้อความ “หยุดได้แล้ว” ปชส.วัดเจอกับตัวแจ้นรีบบอก คาดถูกพวกโรคจิต หรือเจ้ามือหวยเถื่อนข่มขู่ ยันเป็นพระผู้ใหญ่ ไม่เป็นศัตรูกับใคร ขณะที่กรรมการวัดเสริมกำลังตำรวจทหารคุ้มครองเข้ม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้ไม่หวังดี

นำลูกปืนห่อกระดาษยัดใส่มากับผ้าอาบน้ำฝน เพื่อถวายพระครูโสภณพรหมคุณ หรือหลวงพ่อตึ๋งวาจาสิทธิ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองนครนายก เจ้าอาวาสวัดพราหมณีหรือวัดหลวงพ่อปากแดง ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก จึงเดินทางไปสังเกตการณ์พบประชาชนนับหมื่นคน แห่มาถวายเทียนจำนำพรรษา และกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ภายในพระอุโบสถของวัด บางคนนำแป้งฝุ่นไปลูบหาเลขเด็ดกันที่บริเวณโคนต้นตะเคียนด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถามพระครูโสภณ พรหมคุณ หรือหลวงพ่อตึ๋ง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลวงพ่อตึ๋งกล่าวว่ากรณีมีคนนำลูกปืนยัดไส้ใส่มากับผ้าอาบน้ำฝนในถังสังฆทาน

แล้วมาถวายในลักษณะข่มขู่นั้นเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่รู้ว่าวันไหน อาตมาได้รับแจ้งจากนายวชิรวิชญ์ พลมั่น ประชาสัมพันธ์ของวัด ว่าพบลูกปืนถูกยัดไส้ในผ้าอาบน้ำฝน จึงนำมาให้อาตมาดู ส่วนตัวแล้วอาตมาไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร เพราะอาตมาเป็นพระผู้ใหญ่ และรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก อีกทั้งอาตมาก็ไม่ได้แจ้งความเอาผิดกับใคร เพราะวันหนึ่ง ๆ จะมีประชาชนแห่มาที่วัดมากมายนับหมื่นคน จึงไม่รู้ว่าจะเอาผิดกับใคร ตอนนี้ทางคณะกรรมการวัดก็ได้เพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอด ภัยให้เข้มงวดมากขึ้น โดยจัดกำลังตำรวจ ทหารมาคอยดูแลอาตมาอย่างใกล้ชิด

หลวงพ่อตึ๋งกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องลูกปืนนั้นเป็นลูกปืนขนาด 9 มม.ที่มีคนสอดไส้ใส่ปะปนมากับผ้าอาบน้ำฝน อาตมาคิดว่าน่าจะเป็นพวกโรคจิตหรือไม่ก็เป็นพวกเจ้ามือหวยเถื่อนมากกว่า

เพราะมีตัวหนังสือเขียนใส่แผ่นกระดาษ มาด้วยว่า “หยุดได้แล้ว” อาตมาไม่เข้าใจความหมายว่าให้อาตมาหยุดอะไร เพราะทุกวันนี้อาตมาทำแต่พิธีสะเดาะเคราะห์นอนโลงศพ เพื่อเป็นการตายแก้เคล็ดแล้วเกิดขึ้นมาใหม่ แล้วก็เจิมที่หน้าผาก ลงนะโภคทรัพย์ที่ฝ่ามือให้เท่านั้น ส่วนเรื่องเลขเด็ด อาตมาและทางวัดไม่มีนโยบายใบ้เลขเด็ดให้กับญาติโยมคนใดทั้งสิ้น แต่ที่มีคนถูกหวยกันทุกงวดนั้น ญาติโยมไปขอพรจากองค์หลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์ และเอาแป้งไปลูบหาเลขเด็ดกันที่ต้นตะเคียนเท่านั้น ซึ่งอาตมาก็ได้แต่สั่งสอนลูกศิษย์ทุกคนว่าอย่าไปหลงงมงายกับการเสี่ยงโชคมากนัก ขอให้ทุกคนหมั่นทำความดีกันเอาไว้ แล้วโชคลาภจะมาหาเราเอง.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

อ่านต่อ..

นางเอกมาริสา รถพลิกคว่ำ รอดปาฏิหาริย์




ช่วงเช้ามืดวันนี้ (29 มิ.ย.) นักแสดงและนางแบบสาว สา-มาริสา แอนนิต้า ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำบนถนนมอเตอร์เวย์ ขณะเดินทางไปถ่ายละครเรื่อง "เสาร์ 5" ที่ อ.สัตหีบ รอดปาฏิหาริย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้ามืดวันนี้ (29 มิ.ย.) นักแสดงและนางแบบสาว สา-มาริสา แอนนิต้า ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงก่อนทางออกบ้านบึง จ.ชลบุรี ขณะเดินทางไปถ่ายละครเรื่อง "เสาร์ 5" ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รถยนต์พลิกคว่ำ ข้ามไปอีกเลน สภาพรถพังยับ โชคดีที่ดาราสาวคาดเข็มขัดนิรภัยและรถมีถุงลมนิรภัย ได้รับบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำเล็กน้อยจากแรงกระแทกและแรงดึงของเข็มขัดนิรภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลัง นักแสดงและนางแบบจัดการเรื่องประกันภัยและเคลื่อนย้ายรถแล้ว เตรียมเดินทางไปตรวจร่างกายและถ่ายทำละครเรื่อง "เสาร์ 5" ต่อไป

อ่านต่อ..

เมียเก่าแฉแจ๊กสัน ไม่ใช่พ่อ ของลูกที่ผสมเทียม

ส่งศพชันสูตรรอบ2 คนสนิทมึนกลุ่มญาติ โทร.จิกถามที่ซ่อนเงิน หมอโผล่ให้การแล้ว



ครอบครัวส่งศพ"ไมเคิล แจ๊กสัน" ให้หน่วยงานอิสระผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายซ้ำอีกรอบ ด้านเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีระบุหมอประจำตัวเป็นแค่พยาน ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย หลังเจ้าตัวโผล่เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ "เด็บบี้ โรว์"อดีตเมียคนที่ 2 เผยลูกชายวัย 12 กับลูกสาว 11 ขวบ ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของราชาเพลงป๊อป แต่เกิดจากชายผู้ไม่ประสงค์ออกชื่อขายเชื้ออสุจิให้เพื่อใช้ในการผสม เทียม อดีตพี่เลี้ยงลูกทั้ง 3 คนแฉญาติ แจ๊กสันโทร.ถามหาที่ซ่อนเงิน หลังจากแจ๊กสันเพิ่งสิ้นใจแค่ไม่กี่ชั่วโมง พร้อมเตรียมวางแผงอัลบั้มเพลงขายหาเงินล้างหนี้

จากเหตุการณ์แฟนเพลงทั่วโลกร่วมไว้อาลัยให้กับ "ไมเคิล แจ๊กสัน" ราชาเพลงป๊อปวัย 50 ปี ที่เสียชีวิตจากการใช้ยาแก้ปวดเกินขนาดจนทำให้หัวใจวายกะทันหัน ขณะเดียวกันก็เริ่มเกิดปัญหาเกี่ยวกับทรัพย์สินมรดก และลูกทั้ง 3 คนที่ยังไม่รู้จะลงเอยอย่างไร รวมถึงกรณีที่ครอบครัว "แจ๊กสัน" และคนใกล้ชิดยังติดใจผลการชันสูตรศพ ซึ่งทางตำรวจลอสแองเจลิสพยายามติดตามแพทย์ประจำตัวของไมเคิล แจ๊กสัน มาให้ปากคำ เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ในวันที่ราชาเพลงป๊อปจบชีวิตเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. สำนักข่าวสกายนิวส์รายงานว่า น.พ.คอนราด เมอร์เรย์ หมอประจำตัวของไมเคิล แจ๊กสัน ที่เชื่อว่าเป็นคนฉีดยาแก้ปวดเดเมอรอลให้แจ๊กสัน และได้หายตัวไปหลังแจ๊กสันเสียชีวิตนั้น ล่าสุด น.พ.เมอร์เรย์เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่แล้ว และออกมาเปิดเผยผ่านน.ส.มิรันดา เซฟซิค โฆษกประจำตัวว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการตายของแจ๊กสันแต่อย่างใด สอดคล้องกับทางทีมสืบสวนสอบสวนคดีที่กล่าวเช่นเดียวกันว่า น.พ.เมอร์เรย์ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่อยู่ในฐานะพยาน

นายบิล สแตรดลีย์ ทนายความของ น.พ.เมอร์เรย์กล่าวว่า น.พ.เมอร์เรย์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างดี และปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าได้หายตัวไปหลังจากแจ๊กสันเสียชีวิตว่าไม่เป็นความจริง หมอเมอร์เรย์อยู่กับแจ๊กสันขณะเสียชีวิตและเดินทางไปด้วยในรถพยาบาลจนถึงโรงพยาบาล และอยู่กับแจ๊กสันที่โรงพยาบาลอีกหลายชั่วโมง อีกทั้งยังแสดงความเสียใจกับครอบครัวของแจ๊กสัน และก็ไม่ได้เดินทางออกจากลอสแองเจลิสเลย นับตั้งแต่ที่แจ๊กสันเสียชีวิต

เอเอฟพีและบีบีซีรายงานว่า ครอบครัวของไมเคิล แจ๊กสัน ได้ส่งศพให้หน่วยงานอิสระช่วยชันสูตรพลิกศพซ้ำอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากทีมชันสูตรพลิกศพของนครลอสแอนเจลิสให้คำตอบสาเหตุการเสียชีวิตของราชาเพลงป๊อบไม่ได้ในขณะนี้ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจด้านพิษวิทยาอีกราว 4-6 สัปดาห์ โดยขณะนี้กระบวนการชันสูตรศพครั้งใหม่เริ่มต้นแล้ว แต่ครอบครัวแจ๊กสันไม่เปิดเผยถึงสถานที่ในการชันสูตรศพ

ขณะที่สาธุคุณเจสซี่ แจ๊กสัน ตัวแทนครอบครัวแจ๊กสัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพี ว่าการที่ครอบครัวส่งศพแจ๊กสันไปชันสูตรซ้ำรอบสองเพราะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นผิดปกติ หมอประจำตัวแจ๊กสันไม่เคยแจ้งอะไรให้ครอบครัวรับรู้ว่าหมอฉีดยาอะไรให้แจ๊กสัน ครอบครัวเจ็บปวดจากการสูญเสีย แต่กลับยังไม่รู้สาเหตุของการเสียชีวิต

พร้อมกันนี้ครอบครัวแจ๊กสันยังออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการเสียชีวิตของราชาเพลงป๊อปโลก ใจความว่า "ในช่วงเวลาแห่งความมืดมิดที่สุดในชีวิตของเรา เราพบว่าไม่อาจใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันที่เราต้องเผชิญ ลูกชายที่รักของเรา น้องชายและพ่อของลูกๆ 3 คน ได้จากไปอย่างไม่คาดฝัน เป็นโศกนาฏ กรรมที่เกิดขึ้นเร็วเกินไป ไมเคิลจากไปโดยไม่ได้กล่าวคำพูดสุดท้ายไว้ให้กับเราและครอบครัว พวกเราจะคิดถึงไมเคิลตลอดไป ความเจ็บปวดที่เราได้รับไม่อาจที่จะอธิบายเป็นคำพูด แต่ไมเคิลไม่ต้องการให้เรายอมแพ้ต่อความเจ็บปวดนั้น เรามีความปรารถนาที่จะกล่าวคำขอบคุณต่อผู้ที่สนับสนุนไมเคิล อย่างแท้จริง รวมทั้งบรรดาแฟนเพลงทั่วโลกที่มั่นคงต่อไมเคิล และพวกคุณเป็นผู้ที่ไมเคิลรักมาก ขออย่าสิ้นหวัง เนื่องจากไมเคิลจะยังคงอยู่เคียงข้างพวกคุณทุกคนตลอดไป"

เดลี่เมล์รายงานว่า ครอบครัวของแจ๊กสันต้องการให้แจ๊กสันเข้ารับการบำบัดอาการเสพติดยาหลายขนานเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่แจ๊กสันจะเสียชีวิต โดยครอบครัววิตกเกี่ยวกับการติดยาแก้ปวดชนิดร้ายแรงของแจ๊กสัน โดยมีแผนจะร้องขอต่อศาลให้แจ๊กสันเข้ารักษาที่คลินิก ด้วยเหตุผลว่าแจ๊กสันอาจทำอันตรายตนเองและผู้อื่น ในช่วงที่แจ๊กสันได้รับแรงกดดันมหาศาลจากการเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ตในกรุงลอนดอน แต่แจ๊กสันปฏิเสธ ยอมแค่รับการปรึกษาจากนักบำบัดและยอมให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านบำบัดการเสพติดยาเดินทางติดตามไปอังกฤษด้วย โดยมีการเปิดเผยว่าแจ๊กสันเคยล้มป่วยจากการใช้มอร์ฟีนเกินขนาดเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เนื่องจากความเครียดช่วงที่เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย

ไทม์สของอังกฤษรายงานว่า นางเด็บบี้ โรว์ วัย 50 ปี อดีตภรรยาคนที่ 2 ของไมเคิล แจ๊กสัน ซึ่งใช้วิธีผสมเทียมให้กำเนิดลูก 2 คน คือด.ช.พรินซ์ ไมเคิล จูเนียร์ วัย 12 ปี และด.ญ.ปารีส ไมเคิล แคตเธอรีน วัย 11 ขวบ ยืนยันจะไม่ฟ้องแย่งสิทธิการเลี้ยงดูบุตรกับทางครอบครัวของแจ๊กสัน โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดนางโรว์เผยว่า นางโรว์ขอแค่มีสิทธิได้พบลูกบ่อยขึ้นกว่าเดิมก็พอใจแล้ว โดยไม่คิดฟ้องแย่งลูกกับนางแคเธอรีน แจ๊กสัน วัย 79 ปี แม่ของแจ๊กสัน ที่เข้ามาเป็นผู้ดูแลลูกๆ ทั้งหมดของแจ๊กสัน ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดครอบครัวแจ๊กสันเผยว่า ลูกๆ ของไมเคิล แจ๊กสัน ทุกคนมีสุขภาพดีแต่คิดถึงพ่อและต้องการอยู่กับปู่และย่า ขณะนี้เด็กๆ อยู่ในการดูแลของครอบครัวแจ๊กสันในลอสแองเจลิส
ส่วนเรื่องเพลงที่แจ๊กสันแต่งค้างไว้ขณะยังมีชีวิต รวมถึงเพลงที่มีเนื้อหาเตือนให้ตระหนักถึงภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งแจ๊กสันแต่งไว้ก่อนเสียชีวิตเพียง 2 วัน จะมีนักแต่งเพลงชื่อดังมาแต่งต่อให้ และคาดว่าจะเป็นเพลงที่ทำเงินให้กับครอบครัวของแจ๊กสันอย่างมหาศาล โดยครอบครัวแจ๊กสันจะวางแผงอัลบั้มต่างๆ ของแจ๊กสันเป็นชุด คาดว่าจะล้างหนี้ได้ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.7 หมื่นล้านบาท

ดีปัก โชปรา เพื่อนลูกครึ่งอเมริกัน-อินเดียของแจ๊กสัน และเป็นปรมาจารย์เพลงนิวเอจซึ่งเคยร่วมงานกับมาดอนน่าเผยว่า แจ๊กสันโทรศัพท์หาตนเองเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมกับบอกว่ากำลังแต่งเพลงหลายเพลง คาดว่าจะดังเปรี้ยงอย่างแน่นอนหลังจากเพลงฮิตอย่างบิลลี่ จีน และอยากให้โชปราร่วมเขียนเนื้อร้องให้ในเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อสิ่งแวดล้อม

หนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ ฉบับวันอาทิตย์ของเดอะซัน รายงานว่า นางเกรซ รวารัมบา ชาวอูกันดา วัย 42 ปี ซึ่งสนิทสนมกับแจ๊กสันและลูกทั้ง 3 คน เพราะทำงานให้แจ๊กสันมานาน 17 ปี ในตำแหน่งเลขานุการ 5 ปี และเป็นพี่เลี้ยงเด็ก 12 ปี อยู่ในกรุงลอนดอนช่วงที่แจ๊กสันเสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากได้ข่าวว่าแจ๊กสันเสียชีวิต ตนเองเตรียมตัวจะบินกลับไปช่วยดูแลลูกๆ ของแจ๊กสัน แต่ได้รับโทรศัพท์จากคนในครอบครัวของแจ๊กสันถามว่า "เกรซ คุณจำได้ใช่ไหมว่าแจ๊กสันซ่อนเงิน สดไว้ในบ้าน ตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่แล้ว เงินอยู่ไหน" ซึ่งตนตอบกลับไปว่าให้ดูในถุงขยะและใต้พรมต่างๆ แต่แปลกใจว่าแจ๊กสันเพิ่งเสียชีวิตไปไม่กี่ชั่วโมง แต่ญาติกลับโทร ศัพท์มาถามเรื่องเงินที่ซ่อนไว้ นอกจากนี้ญาติของแจ๊กสันยังบอกกับตนว่าเด็กๆ ร้อง ไห้และถามหาตน โดยเด็กๆ ยังไม่เชื่อว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว

เกรซเผยด้วยว่า เคยช่วยกดปั๊มท้องให้แจ๊กสันเพื่อป้องกันไม่ให้กินยาเกินขนาดจนอาจเสียชีวิต และเคยอยู่เป็นเพื่อนแจ๊กสันในชั้นใต้ดินนานหลายสัปดาห์เวลาที่แจ๊กสันเสียสติและมีอาการทางประสาท นอกจากนี้ลูกๆ ของแจ๊กสันยังเกลียดหน้ากากที่พ่อบังคับให้ใส่เพื่อปิดบังใบหน้าเวลาออกไปข้างนอก อดีตพี่เลี้ยงบอกอีกว่า คดีฟ้องร้องล่วงละเมิดทางเพศเด็กในปี 2548 ทำให้แจ๊กสันเหลือเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าแจ๊กสันมีเงินจริงๆ ก็หมดไปกับการพักตามโรงแรมหรูๆ มากกว่าเก็บเงินไว้ที่บ้าน ตนคิดว่าแจ๊กสันไม่มีเงินอย่างที่ใครๆ คิด

หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันยังได้สัม ภาษณ์เด็บบี้ โรว์ อดีตภรรยาของแจ๊กสัน แม่ของด.ช.พรินซ์ และด.ญ.ปารีส ที่อ้างว่าความจริงแจ๊กสันไม่ได้เป็นพ่อของเด็กทั้ง 2 คน โดยเด็กทั้ง 2 คนเกิดมาด้วยวิธีผสม เทียม ซึ่งเด็บบี้จ่ายเงินเพื่อให้ได้อสุจิของผู้บริจาคที่ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่ง

เด็บบี้เล่าว่า ขณะทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในคลินิกผิวหนังที่ไมเคิลไปรักษา ไมเคิลเพิ่งหย่าจากลิซ่า มารี เพรสลีย์ ภรรยาคนแรก ซึ่งเป็นลูกสาวของเอลวิส เพรสลีย์ และกำลังว้าเหว่มาก อยากมีลูก จึงเสนอว่าพร้อมจะอุ้มท้องให้เพื่อเป็นของขวัญ "ฉันได้อสุจิมาจากหลอดอันหนึ่ง มันไม่ใช่อสุจิของไมเคิล" เด็บบี้กล่าว และว่า ตนเองกับแจ๊กสันแต่งงานกันในปี 2549 และหย่าจากกันใน 3 ปีให้หลัง ตลอดเวลาที่แต่งงานกันไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศ และต้องเสแสร้งทำเป็นครอบครัวอบอุ่นทั้งที่ไม่เคยอยู่ด้วยกันเลย ต่างคนต่างอยู่บ้านคนละหลัง สิ่งที่เจ็บปวดมากที่สุดคือหลังคลอดลูกคนที่สองแล้วเด็บบี้ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้อีก แจ๊กสันก็ไม่ได้ให้ความสนใจอีกต่อไป

เดอะซันรายงานด้วยว่า แจ๊กสันทำศัลยกรรมพลาสติกบนใบหน้ามาไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง รวมถึงการผ่าตัดทำจมูกเพื่อให้หายใจสะดวกและร้องเพลงได้ดีขึ้น โดย ดร.อเล็กซ์ คาริดิส ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมพลาสติก กล่าวว่า เหตุที่แจ๊กสันต้องการแปลงโฉมตัวเองเพราะในจิตใจส่วนลึกมีความรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหนีปมอดีตในวัยเยาว์ที่ขมขื่น โดยฟันธงว่าแจ๊กสันเป็นคนที่ผ่าตัดมากที่สุดในโลก "ผมไม่คิดว่าการผ่าตัดจะทำให้แจ๊กสันมีความสุข มันอาจจะทำให้พอใจในตอนแรกเท่านั้น ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่สะท้อนว่าแจ๊กสันไม่อยากแก่ เห็นได้จากการแต่งตัว"

แจ๊กสันทำจมูกโด่งแหลมเหมือนนอแรดเมื่อปี 2522 เพราะประสบอุบัติเหตุในการซ้อมเต้นจนจมูกหัก การผ่าตัดครั้งนั้นทำให้หายใจลำบาก หลังจากนั้นแจ๊กสันไปทำศัลย กรรมเพื่อความงามเป็นหลัก โดยเปลี่ยนโฉมทั้งใบหน้าและสีผิวในช่วงออกอัลบั้มทริล เลอร์ในปี 2526 จนได้ฉายาว่าแว็กโก้แจ๊กโก หรือแจ๊กสันจอมเพี้ยน รวมทั้งไปยืดผมด้วย ทำให้ไม่เหลือคราบของนักร้องผิวสีแอฟริกันอีกต่อไป กระทั่งมาถึงอัลบั้มแบด สีผิวของแจ๊กสันขาวขึ้น มีการไปทำจมูกซ้ำและทำคางบุ๋มด้วย ดร.คาริดิสคาดว่าการทำศัลยกรรมกว่า 20 ครั้งคาดว่าจะเสียเงินไปประมาณ 130,000 ปอนด์ หรือกว่า 7 ล้านบาท



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

อ่านต่อ..

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง 1ก.ค. 2552 ชุด 2



หวัดดีค่ะ วันนี้นู๋ดีได้เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง ชุดที่ 2 มาแล้วนะคะ ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ

เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง 1ก.ค. 2552 ชุด 1
เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง 1ก.ค. 2552 ชุด 1

เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง 1ก.ค. 2552 ชุด 2
เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง 1ก.ค. 2552 ชุด 2

อ่านต่อ..

ภาพนาทียื้อชีวิตก่อนสิ้นใจของ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อบ

ภาพนาทียื้อชีวิตก่อนสิ้นใจของไมเคิลแจ็คสันราชาเพลงป๊อบ




ดูคลิปการแสดงคอนเสิร์ต เพลง You Are Not Alone ของ ไมเคิล แจ๊กสัน

มาดูกันว่าแฟนเพลงคลั่งไคล้เค้าขนาดไหน





beat it just beat it


อ่านต่อ..

ปิดฉากชีวิตนางฟ้าชาร์ลี ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์

ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์ นักแสดงหญิงชื่อดังแห่งยุค 70 จากบทในภาพยนตร์ทางโทรทัศน์เรื่อง “นางฟ้าชาร์ลี” เสียชีวิตแล้วจากโรคมะเร็ง ด้วยวัย 62 ปี



ฟอว์เซตต์ เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย จากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยวัย 62 ปี โดยมีสมาชิกในครอบครัว เพื่อนสนิท รวมถึงไรอัน โอนีลล์ คู่ชีวิตอยู่เคียงข้าง ฟอร์เซตต์โด่งดังจากบทนำในภาพยนตร์ทางโทรทัศน์เรื่อง “นางฟ้าชาร์ลี” เมื่อปี 2519 ซึ่งภาพโปสเตอร์ของเธอที่สวมชุดว่ายน้ำสีแดงสดได้รับความนิยมและถูกจำหน่ายไปนับล้าน ๆ ชุด ต่อมารับบทในภาพยนตร์ทางโทรทัศน์อีกหลายเรื่องตลอดช่วงยุคหลังปี 2523

หลังปี 2533 ฟอว์เซตต์ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อปี 2549 และเข้ารับการรักษาหลายครั้ง แต่อาการไม่ดีขึ้น เชื้อมะเร็งได้ลามไปทั่วช่องท้องและตับ จนเธอได้ถ่ายทำสารคดีการต่อสู้กับโรคมะเร็งของเธอที่มีชื่อว่า “ฟาร์ราห์ แอนด์ สตอรี่”ออกฉายทางโทรทัศน์เมื่อไม่นานมานี้. -สำนักข่าวไทย

หลายคนคงพอที่จะทราบข่าวและเคยติดตามชมสารคดีชีวิตของเธอแล้วว่า ฟาร์ราห์ ฟอว์เซ็ตต์ วัย 62 ปี เซ็กซ์ซิมโบลแห่งยุค 70 และอดีตหนึ่งใน 3 สาวนางฟ้าชาร์ลีรุ่นบุกเบิก กำลังป่วยหนักจาก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่ลามหนักไปทั่วช่องท้องและตับ โดยเธอได้ต่อสู้กับโรคนี้มานาน 3 ปี และรับการรักษาด้วยเคมีบำบัด อย่างไรก็ตาม ก้อนเนื้อร้ายดังกล่าวยังคงอยู่และทำให้เธอป่วยเป็น "มะเร็งขั้นสุดท้าย"

แต่หลายคนคงเพิ่งรู้ว่า "ฟาร์ราห์" ได้แอบถ่ายทำสารคดีชีวิตของเธอ ที่ชื่อว่า "Farrah&Story" เอาไว้อย่างเงียบๆ ทำให้เรามีโอกาสเห็นสภาพของ เจ้าของ"ทรงผม"ยอดฮิตแห่งยุค หรือ "ทรงฟาร์ราห์" ที่พี่ป้าน้าอานิยมทำกันมาจนถึงทุกวันนั้น ระหว่างที่เธอกำลังต่อสู้กับโรคร้ายเพื่อเอาชีวิตรอด จากภาพจะเห็นได้ว่า เธอเต็มใจให้มีการเผยแพร่สภาพจริงของเธอ ขณะที่นอนแบ่บอยู่บนเตียงและใส่ชุดคนป่วย

สาเหตุที่เธอตัดสินใจถ่ายทำสารคดีชิ้นนี้ เป็นเพราะต้องการนำเสนอเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายของเธอให้คนรู้ จะได้ไม่ต้องมีข่าวเสนอข่าวเธออย่างผิดๆ ถูกๆ อีกต่อไป ทั้งนี้ สารคดีจะถูกเผยแพร่ผ่านทางช่อง NBC News ในรายการพิเศษความยาวกว่า 2 ชั่วโมง ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้รายงานข่าวระบุว่า "ฟาร์ราห์" ได้เริ่มบันทึกภาพเหตุการณ์รับเคมีบำบัดตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อเจ้ามะเร็งร้ายได้หวนมาเล่นงานเธออีกครั้ง เพราะเมื่อปี 2549 ก่อนนี้แพทย์เชื่อว่า เธอหายจากโรคมะเร็งแล้ว แต่อยู่ๆ มันก็กลับมาใหม่ พร้อมกับอาการที่รุนแรงกว่าเดิมจนถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด





ไรอัน โอนีล คนรักของเธอ กล่าวว่า ฟาร์ราห์กล้าหาญมาก เธอมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะโรคร้ายได้ แม้จะเป็นช่วงที่มีอาการหนักที่สุดเธอก็ไม่เคยอายที่จะหลบกล้อง และไรอัน โอนีล ยังสัญญากับเธออีกว่าเธอเธอหายจากโรคนี้ จะแต่งานกันอีกครั้งหลังจากที่ รักๆเลิกๆ กันมานาน

ที่มา : มติชน

อ่านต่อ..

ไมเคิล แจ็คสัน ลาโลก!! หัวใจวายเฉียบพลันในบ้านพักย่านแอลเอ

michael jackson died

ราชาเพลงป็อปชื่อก้องโลก "ไมเคิล แจ็คสัน" ได้เสียชีวิตกระทันหันกลางนครลอสแองเจลิส จากโรคหัวใจ ด้วยวัย 50 ปี โดยหัวใจหยุดเต้นขณะนำส่งโรงพยาบาลยูซีแอลเอ ปิดตำนานท่าเต้น "ลูบเป้า"
สำนักข่าวบีบีซีรายงานเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป็อปชื่อก้องโลก ถูกนำส่งโรงพยาบาลยูซีแอลเอ ในนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐฯ หลังหัวใจหยุดเต้นกระทันหัน เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเว็บไซต์บันเทิงชื่อดังของสหรัฐฯ ทีแซดเอ็ม (TZM) อ้างว่ามีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันออกมาว่า ซูเปอร์สตาร์ชื่อก้องโลกวัย 50 ปีผู้นี้ ได้เสียชีวิตลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ส และเอเอฟพี ต่างรายงานตรงกัน ยืนยันว่า ไมเคิล แจ็คสัน ได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยหัวใจหยุดเต้นขณะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แม้เจ้าหน้าที่แพทย์จะพยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อ กระตุ้นหัวใจอย่างเต็มที่ก็ตาม เบื้องต้นรายงานว่าสาเหตุของการเสียชีวิตอาจเกิดจากเส้นเลือดหัวใจอุดตัน สำหรับไมเคิล แจ็คสัน อยู่ระหว่างการเตรียมหวนคืนเวทีคอนเสิร์ตครั้งแรกในรอบ 12 ปี ชื่อว่า "ดิส อิส อิท ณ โอทู อารีนา" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ หลังจากมีปัญหาเรื่องสุขภาพ

ไมเคิล แจ็กสัน เจ้าของท่าเต้น "มูน วอล์ค" และ "ลูบเป้า" มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน (Michael Joseph Jackson) หรือเรียกย่อๆ ว่า เอ็มเจ (MJ) หรือแจ็กโก้ (Jacko) เป็นนักร้องชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชาเพลงป็อป (King of Pop) เริ่มต้นอาชีพนักดนตรีในฐานะนักร้องนำของวง The Jackson 5 เมื่ออายุได้เพียง 7 ปี และได้ออกงานเดี่ยวชิ้นแรกในอัลบั้ม Got to Be There ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2514 ในขณะที่ยังเป็นสมาชิกของวง The Jackson 5 อยู่และมีอายุเพียง 11 ปี ไมเคิล แจ็กสันก็สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงมาครองได้มากถึง 3 เพลงฮิตแล้ว

ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ไมเคิลกลับมาพร้อมกับอัลบั้ม "Dangerous" ที่มีเพลง "Black or White" ติดอันดับ 1 ทั้งในบิลบอร์ดและชาร์ตเพลงทั่วโลก ก่อนที่จะส่งอัลบั้ม "History" กับเพลง "You're Not Alone" ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับ 1 ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย และล่าสุดกับ "Invincible" (พ.ศ. 2544) ซึ่งทิ้งห่างจากงานชุดที่แล้วถึง 10 ปีเต็ม หลังจากว่างเว้นจากการทัวร์คอนเสิร์ตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ในเดือน มี.ค. 2552 ไมเคิลได้ประกาศจัดคอนเสิร์ต ดิส อิส อิท ณ โอทู อารีนา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยแรกเริ่มจัดเพียง 10 รอบ แต่ด้วยแฟนเพลงที่ให้ความสนใจคอนเสิร์ตนี้เป็นอย่างมาก จึงได้เพิ่มรอบเป็น 50 รอบ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 2552 ถึง 24 ก.พ. 2553

ไมเคิล แจ็กสันเคยเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทย 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในกลางปี พ.ศ. 2536 เป็นการโปรโมตปิดอัลบั้ม Dangerous กำหนดการแสดง 2 รอบ ในวันที่ 21-22 ส.ค. ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจากชาวไทย และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง ถึงความเหมาะสมของการจัดแสดง เพราะบางส่วนเห็นท่าเต้นลูบเป้าของไมเคิลไม่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมไทย และครั้งที่ 2 คือ ในกลางปี พ.ศ. 2538 เป็นการโปรโมตอัลบั้ม History จัดแสดงที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แสดง 2 รอบอีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ไม่ได้รับความสนใจเท่าครั้งแรก

ไมเคิลยังมีชีวิตที่แปลกพิศดาร เช่น มักแต่งตัวแปลกๆ อย่างตอนเดินทางมาถึงประเทศไทย ในปี 2536 หรือเคยมีผู้พบว่าไมเคิลแต่งตัวเป็นผู้หญิงในห้องน้ำหญิงสาธารณะ หรือการที่เปลี่ยนสีผิวตัวเองด้วยวิทยาการทางการแพทย์จากผิวดำให้เป็นขาวซีดอย่างในปัจจุบัน หรือการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าด้วยซิลิโคนหลายต่อหลายครั้ง

เมื่อต้นปี 2537 ไมเคิลได้สร้างประหลาดใจให้แก่แฟนๆ เมื่อจู่ๆ ประกาศหมั้นและแต่งงานกับ ลิซ่า มารี เพรสลีย์ บุตรสาวของเอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร็อค แอนด์ โรล อย่างกระทันหัน โดยทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตเช่นสามีภรรยา ก่อนจะเลิกรากันไปในปี 2539 โดยไม่มีบุตรด้วยกัน แต่ภายหลังไมเคิลมีบุตร 2 คนจากการผสมเทียมกับเด็บบี โรวว์ พยาบาลสาวใหญ่ และมีเพิ่มอีก 1 คนจากสาวผู้ไม่เปิดเผยนาม ด้วยการผสมเทียมเช่นเดียวกัน

ไมเคิล แจ็คสัน มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเด็กมากมาย มักปรากฏข่าวถึงการลวนลามทางเพศกับเด็กผู้ชายเสมอ โดยเฉพาะในเดือน มิ.ย. 2548 ต้องขึ้นศาลฟังคำพิพากษาในคดีข่มขืนเด็กชายผู้หนึ่ง ศาลพิพากษาให้รอดพ้นไป รวมทั้งเคยอุ้มลูกของตัวเองซึ่งยังเป็นทารกอยู่ ทำท่าว่าจะทิ้งลงมาจากหน้าต่างโรงแรมที่เจ้าตัวอาศัยอยู่เพื่อทักทายแฟนๆ ที่อยู่ข้างล่าง จนได้รับเสียงตำหนิต่อว่าอย่างหนักจากสังคม


ที่มา : ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เลขเด็ด ม้าสีหมอก

เลขเด็ดม้าสีหมอก งวดที่แล้วให้เลขถูกทั้งบนทั้งล่าง ใครจำไม่ได้ย้อนกลับไปดูหัวข้อ รวมเลขเด็ดอาจารย์ดัง งวดนี้เอามาฝากกันอีก สำหรับเลขเด็ดของม้าสีหมอก ไปดูกันค่ะ

อ่านต่อ..

เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง 1ก.ค. 2552

หวัดดีค่ะ ชาวบล็อกทุกคน ต้องขอโทษด้วยที่นู๋ดีหายหน้าหายตาไปซะหลายวัน ไม่ได้มาอัพเดทเรื่องราวข่าวสารต่างๆ กันเลย เพราะคอมที่บ้านเกิดปัญหาเล็กน้อยเลยต้องหยุดอัพบล็อกไป แต่วันนี้กลับมาแล้วค่ะ กลับมาพร้อมกับสิ่งที่หลายๆ คนรอคอย อิอิ..
เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดง และ เจ้าแม่ตะเคียนทอง นั่นเอง เลขเด็ดประจำงวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 นี้ นู๋ดีไม่แน่ใจว่าจะออกมากี่ชุด แต่ยังไงก็จะจัดมาให้ครบทุกชุดนะคะ เลขที่ได้มาลักษณะไม่เหมือนงวดก่อนๆ เท่าไหร่ แต่ยังไงก็ลองดูกันก่อนค่ะ


ยังไงก็ลองแวะเข้ามาดูบล็อกนี้เรื่อยๆ นะคะ จะคอยอัพเดทเลขเด็ดงวดนี้ให้ค่ะ

ร่ำรวยๆ ทุกคนนะคะ

นู๋ดี ^ ^

อ่านต่อ..

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โอ-วรุฒ เห่อลูก เมียป่อง คลอดเดือนหน้า



'โอ - วรุฒ' ยอมรับเตรียมเป็นคุณพ่อ ภรรยาสาว อายุน้อยกว่า 17 ปี ตั้งท้องจะคลอดเดือนหน้า เผย เป็นลูกชาย ตั้งชื่อ "น้องแอร์บัส" ขณะยังไม่คิดจัดพิธีแต่งงาน ...

ช่วงบ่าย วันนี้ (18 มิ.ย.) โอ - วรุฒ วรธรรม วัย 40 ปี นักแสดงและพิธีกร ชื่อดัง กล่าวยอมรับกับผู้สื่อข่าว ในงานบวงสรวงละครของค่ายทีวีทันเดอร์ ว่า เดือนหน้าจะได้เห็นหน้าลูกชายคนแรก และได้ตั้งชื่อว่า แอร์บัส ส่วนภรรยานั้นอายุน้อยกว่าถึง 17 ปี โดยเจอกันในโรงพยาบาลระหว่างที่ป่วยหนัก

โอ-วรุฒ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยปิดบังเรื่องการมีครอบครัว แต่ไม่มีใครถาม และ จะไม่จัดพิธีแต่งงาน เพราะไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายนับล้านบาท และยังไม่คิดจดทะเบียนกับภรรยา เพราะไม่อยากรับภาระด้านภาษี


ที่มา : ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

"อั้ม" ไม่อาวรณ์ "ต๊อด" เจ๊ยินดีมีข่าวควงสาวมหา'ลัย



อั้ม-พัชราภา ยันรู้ว่าต๊อดไปเที่ยวหัวหินกับสาวเพราะต๊อดบอก ไม่เศร้าถ้าต๊อดจะมีคนใหม่ เผยโน้ตบอกภาพหลุดโน้ต-จิ๊บ นานแล้ว ยันไม่กลัวมีปัญหากับจิ๊บ...

เพิ่งให้สัมภาษณ์ไปวันก่อนว่า ห่างกันแล้วสำหรับ ต๊อด-ศิณะ แต่ล่าสุดมีข่าวว่า ต๊อด มีแฟนใหม่ซะแล้ว อะไรมันจะไวยังกะจรวดขนาดนี้ เพราะมีคนเห็นควงนักศึกษาสาวหน้าตาดีซะด้วย แหม ยังงี้มันหยาม "เจ้าแม่เนิร์สเซอร์รี่" อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ กันชัดๆ เจอ อั้ม ในวันบวงสรวงละคร "พระจันทร์ลายพยัคฆ์" ทางช่อง 7 ที่บริษัทโพลีพลัส เลยถามเรื่องนี้ว่า อั้ม รู้เรื่องมั้ย? "ไม่ ทราบเหมือนกันค่ะ คงเป็นเพื่อนๆเค้ามั้งคะ" เป็นนักศึกษาสาวหน้าตาดีด้วย? "นัก ศึกษาคงไม่มีมั้งคะ ถ้านอกวงการอาจจะมีบ้างเป็นเพื่อนๆเค้า" ทราบมั้ยว่าเค้าไปเที่ยวหัวหินกัน? "ทราบค่ะ ต๊อดบอก" เป็นนักศึกษาเชียงใหม่? "ไม่ใช่เชียงใหม่ กรุงเทพฯนี่ล่ะค่ะ" หึงมั้ย? "ไม่ค่ะ" เค้าบอกมั้ยว่าเป็นใคร? "ก็เพื่อนเยอะๆ เค้าก็บอก ว่าไม่ได้คบใครเป็นพิเศษ" ที่อั้มไม่รู้สึกอะไรเพราะมีโน้ตแล้ว? "ไม่เกี่ยวค่ะ เราก็ไม่มีใครค่ะ" ถ้าวันนึง ต๊อดจะไปจริงๆ? "ยินดีค่ะ" ไม่รั้งเหรอ? "ไม่" เปิดโอกาส ให้เค้ามีใครใหม่มั้ย? "เราก็พูดกันตั้งนานแล้วนะคะ ถ้า มีก็ยินดีเลย แต่แค่ยังไม่มีแค่นั้นเอง" มีข่าวลือว่าอั้มเศร้าจริงมั้ย? "ไม่อ่ะค่ะ โทร.ไปก็ยังรับกันอยู่ค่ะ"

โน้ตก็มีภาพหลุดกับจิ๊บ-คีตภัทร? "เค้าบอกนานแล้วก็ไม่ทราบเหมือนกัน" ถามเค้ามั้ย? "ก็แซวเฉยๆ เค้าก็บอกไม่มีอะไร อั้มก็ไม่ ได้ถามอะไร" ต๊อดไปจริงๆจะเสียใจมั้ย? "ไม่ค่ะ ก็ห่างกันมาซักพักแล้วค่ะ หลายอาทิตย์ แล้ว" จิ๊บก็อยู่ช่อง 7 ด้วยกลัวมีปัญหามั้ย? "ไม่กลัวมีปัญหาหรอกค่ะ เค้าคงเป็นเพื่อนกันนานแล้ว ถ้าใครมีปัญหามีข่าวไม่ดี โน้ตก็จะให้คำปรึกษาตลอด เค้าเป็นคนที่ค่อนข้างโอเค นิสัยดี เพราะฉะนั้นใครๆก็อยากปรึกษาเค้านะ เป็นที่ปรึกษาที่ดีมาก" มีใครเสียใจหรือดีใจมั้ย? "ก็คงมีบ้างแต่ไม่รู้ เอาเป็นว่าตอนนี้เราไม่เลือกใครนะ เป็นเพื่อนกันหมดทุกคน" โน้ตมาวินมั้ย? "ไม่ค่ะ เป็นเพื่อน กันทุกคน".


ที่มา : ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ฮือฮา ตระกูลประหลาด นอนเฝ้าผีนาน 70 ปี


ฮือฮาตระกูลพิลึก นอนเฝ้าโลงศพมานานกว่า 70 ปี แฉเฝ้ามาตั้งแต่รุ่นยายจนมาถึงหลาน โดยคุณตาเจ้าของบ้านที่ตายเพราะประสบอุบัติเหตุ สั่งไว้ห้ามนำศพไปเผาหรือฝัง ให้ไปไว้ในบ้านจนกว่าจะไปผุดไปเกิด เผยเหตุขนหัวลุกบางครั้งมีเสียงคล้ายคนเดินอยู่ในบ้าน ส่วนหลานที่ได้รับมรดกผี ขณะนี้นอนเฝ้าโลงศพมานานกว่า 20 ปีแล้ว

เรื่องราวความแปลกประหลาดรายนี้ ถูกเปิดเผย เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. เมื่อผู้สื่อข่าวได้รับทราบจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1 ต.อมฤต อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ที่บ้านเลขที่ 49 มีการเก็บซากโครงกระดูกมนุษย์เอาไว้ในโลงไม้นานนับสิบปี โดยมีคนนอนเฝ้า อยู่ทุกวันเพียงคนเดียว และมีเสียงร่ำลือถึงความอาถรรพณ์ของวิญญาณที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง พบบ้านหลังดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านเขียวขุนพิทักษ์ อันเลื่องชื่อประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา หลังคาทรงปั้นหยา ส่วนทางเดินข้างบ้านเป็นไม้ผุพัง ภายในบ้านเป็นโถงกว้างไม่มีการกั้นห้อง สภาพทรุดโทรมอายุเกือบ 100 ปี

ขณะที่มุมของบ้านมีโต๊ะหมู่บูชาตั้งวางอยู่ แต่ที่น่าตกใจและประหลาดใจมากที่สุดคือ มีรูปถ่ายเก่า ๆ ปิดทองคำเปลววางอยู่หน้าโลงศพไม้สักเก่า และมีมุ้งกางคลุมเอาไว้ เมื่อเปิดมุ้งออกดูก็พบว่าไม่มีฝาโลงปิดอยู่ มองเห็นภายในโลงมีกะโหลกศีรษะมนุษย์ และซาก โครงกระดูกเป็นรูปร่างครบ ภายในบ้านมีกลิ่นอับ ของฝุ่นคลุ้งไปทั่ว ข้าวของวางกระจัดกระจาย บรรยากาศภายในบ้านน่าสะพรึงกลัวต่อผู้พบเห็น เป็นอย่างมาก

สอบถามนายสำเริง ยิ่งยง อายุ 36 ปี ผู้ดูแลบ้านหลังนี้ เปิดเผยว่า กระดูกที่อยู่ในโลงคือนายพวงทอง ลิดกะโห้ เสียชีวิตไปนานกว่า 70 ปีแล้ว ตนมีศักดิ์เป็นเหลนทางพี่สาวของคนตาย ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายของตนได้ให้มานอนเฝ้าตั้งแต่ตนยังเล็ก ๆ โดยทุกวันหลังจากตนออกไปทำงานรับเหมาก่อสร้าง ก็จะกลับมาจุดธูปและหาน้ำมาวาง บางวันก็เอาอาหารมาวางให้ซึ่งตนมีหน้าที่ต้องนอนเฝ้าโลงดังกล่าวคนเดียวทุกคืน เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว โดยบางคืนก็จะมีเสียงคล้ายคนเดินไปมาอยู่ ในบ้านหลังนี้ และยังมีเสียงกวาดพื้น เมื่อไปสอบถามคุณยาย ก็ทราบว่าเป็นวิญญาณของตา ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ตนได้ยินเสียงจนชินแล้วจึงไม่เกิดความกลัวแต่อย่างใด

ด้านนางยุพิน อาทร อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายพวงทอง เปิดเผยว่า นายพวงทอง เป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 7 คน ก่อนหน้านี้หลังจากพ่อของตนซึ่งเป็นหมอโบราณ รักษาคนทั่วไปเสียชีวิตลง น้องชายก็ได้รับสืบทอดวิชาจากพ่อมารักษาคนที่ป่วย แต่ต่อมาน้องชายเกิดประสบอุบัติเหตุพลาดตกบันไดอกกระแทกกับครก ถึงขนาดไอเป็นเลือด นอนรักษาอยู่นานเกือบปีจึงเสียชีวิตลง โดยก่อนตายน้องชายบอกว่ารักบ้านหลังนี้มาก และไม่ให้เผาร่างขอให้เก็บศพเอาไว้ที่บ้านหลังนี้ จนกว่าจะไปผุดไปเกิด เดิมแม่เป็นคนเฝ้า เมื่อเสียชีวิตลงก็ให้พี่สาวคนโตดูแล จนพี่สาวคนโตเสียชีวิต ตนก็มาดูแลและให้หลานชายไปคอยดูแล และได้สั่งญาติที่เหลือว่า หากเป็นอะไรไปก็ขอให้สืบทอดรับมรดกเฝ้าศพนี้ไป ซึ่งทุกคนก็รับปาก จนกว่านายพวงทองจะไปเกิด

ส่วนนายฉนวน ธนูธร อายุ 78 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับบ้านที่เก็บศพ กล่าวว่า เมื่อตอนที่นายพวงทองมีชีวิตอยู่ เป็นที่รักของชาวบ้านและรักษาคนเจ็บได้ จนกลายเป็นหมอเทวดา เมื่อตายลงจึงไม่มีใครกลัว แม้ว่าจะเคยมาปรากฏร่างและเข้าร่างทรงให้รู้ว่ายังไม่ไปเกิด ชาวบ้านก็ไม่ได้กลัว และคิดว่าพี่น้องคงจะเก็บศพเอาไว้อย่างนี้และดูแลกันตลอดไป.

ที่มาจาก : เดลินิวส์

อ่านต่อ..

เศรษฐินีสาวใหญ่กิมจิประกาศหาคู่ หนุ่มเกือบ 400 คนเรียงแถวเข้าสมัคร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มิถุนายน 2552 15:43 น.


เอเอฟพี – บริษัทจัดหาคู่แดนโสมขาวเผย หนุ่มชาวเกาหลีใต้เกือบ 400 คน ลงสมัครเพื่อแต่งงานกับเศรษฐินี วัยกลางคน ซึ่งประกาศหาเนื้อคู่ โดยจะมีผู้สมัครที่มีความจริงใจเพียง 8 คนเท่านั้นที่จะเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย

โฆษกหญิงของบริษัทหาคู่ซูนูเผยว่า สาวใหญ่ วัย 49 ปี ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่าถึง 18 ล้านดอลลาร์ กำลังหาสามีด้วยการประกาศผ่านทางออนไลน์ ตั้งแต่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ตอบรับประกาศดังกล่าวทั้งหมด 394 คน ทั้งหมอ ทนายความ นักบัญชี ทหาร และลูกจ้างรัฐบาล อายุตั้งแต่ 26-49 ปี

“เนื่องจากเธอเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ เธอจึงยุ่งเกินกว่าที่จะหาสามีด้วยตัวของเธอเอง” โฆษกหญิงของบริษัทหาคู่กล่าว

“เราเริ่มต้นวางแผนเชื้อเชิญให้คนเข้ามาสมัครจนถึงสิ้นเดือนนี้ แต่หญิงคนดังกล่าวรู้สึกเป็นภาระหนัก จากการความสนใจของสื่อที่ไม่ได้รับเชิญ และเธอต้องการปิดรับสมัครในวันอังคาร” เธอเสริม

เศรษฐินีคนดังกล่าวได้เลือกหนุ่ม 8 คนเพื่อสัมภาษณ์แล้ว โดยเป็นชายที่อยู่ในวัย 37-49 ปี มีอาชีพทั้งลูกจ้างบริษัท ครู และพนักงานธนาคาร และคาดว่าเธอจะพบปะกับหนุ่ม 2-3 คนต่อเดือน ตลอด 3 เดือนข้างหน้า

อ่านต่อ..

วิธีติดขนตาปลอม

ใครที่อยากติดขนตาปลอม วันนี้เรามีวิธีติดขนตาปลอมมาบอก



วิธีการติดขนตาปลอม คือ เริ่มต้นจากดัดขนตาจริงให้งอนได้รูปก่อน จากนั้นใช้แหนบดึงขนตาออกจากกล่อง แล้วจัดแต่งทรงขนตาด้วยมือทั้ง 2 ข้าง บางทีขนตาปลอมจะยาวกว่าตามาก ๆ ก็ต้องตัดปลายออก แต่ก่อนตัดเอามาทาบที่ตาก่อนว่าต้องการความยาวแค่ไหน แล้วค่อยตัด จะได้ขนตาที่พอดีกับตา

จากนั้น ใช้คัตตอนบัดหรือปลายแปรงแต้มกาวสำหรับติดขนตา ทาให้ทั่วรากขนตาปลอม แล้วจึงนำมาติดบริเวณรากขนตา ใช้นิ้วแตะตรงกลางขนตาเบา ๆ จากนั้นกดด้านหัวตาและหางตาให้ขนตาปลอมแนบสนิทยิ่งขึ้น แต่ก่อนติดเขียนอายไลเนอร์ที่ขอบตาก่อนก็จะดูสวยยิ่งขึ้น

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากติดขนตาปลอม ลองนำวิธีที่แนะนำไปติดขนตาปลอมกันดูได้.


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

อ่านต่อ..

คอนเฟิร์ม กบ-อั้ม-นุ่น ไม่ต่อสัญญา 7 สี

พอมีข่าวว่า คุณแดง 7 สี เตรียมวางมือ ทำเอานางเอกช่อง 7 ถึงกับระส่ำระส่าย เตรียมประท้วงไม่ต่อสัญญากันเป็นแถวๆ ตั้งแต่ "กบ สุวนันท์" ถึงแม้ว่าจะหมดสัญญาไปนานแล้วแต่ก็ยังอยู่ด้วยใจรู้บุญคุณที่คุณแดงเป็นผู้ปลุกปั้นเข้าวงการ



แม้กระทั้ง "อั้ม-นุ่น" ที่กำลังจะหมดสัญญาเร็วๆ นี้ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะต่อสัญญาอีก เพราะหากต่อสัญญารอบนี้กว่าจะหมดสัญญาก็คงเหนียงยานกันพอดี กลายเป็นนางเอกค้างเติ่งที่อยู่ในสัญญานานที่สุดโดยเฉพาะ "อั้ม พัชราภา" ตอนนี้ก็ปาไป 30 กว่าๆ หากต่อสัญญาอีกรอบ ก็จะหมดสัญญาอายุเฉียด 40 เพราะฉะนั้น อั้มคงไม่เหนียงยานตายคา 7 สีอย่างแน่นออีกทั้ง "พิ้งกี้ สาวิกา" ล่าสุดเห็นว่าไปเซ็นสัญญาโกอินเตอร์ที่ประเทศอินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าปีหน้าทั้งปีไม่รู้ว่าหนูพิ้งกี้จะมีงานละครที่เมืองไทยให้ดูกัน อีกหรือเปล่า?
ส่วนนางเอกแม่เหล็กอีกคน แพนเค้ก เห็นว่าตอนนี้ก็มีหลายค่ายเข้ามาทาบทาม ซึ่งแหล่งข่าวเม้าท์ว่าด้านคุณแม่ของหนูแพนเค้ก ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ก็พร้อมเปิดใจคุยกับทุกค่ายเช่น กันโอ๊ย... รู้แบบนี้แล้ว เจ๊แดง 7 สี ยังจะคิดวางมืออีกหรือเปล่าหนอ

ที่มาข้อมูล : Gossip Star

อ่านต่อ..

ถูกหวยรึเปล่า?

ถูกหวยรึเปล่า? มีใครถูกหวยบ้าง? คงเป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนได้ยินหลังจากหวยออกนะคะ ก็คงจะมีหลายๆ คนที่ถูกหวย รับทรัพย์กันไปเป๋าตุง แต่มีอีกหลายๆ ๆ ๆ คนที่ถูกกินเรียบตามเคย แต่ก็ยังตั้งหน้าตั้งตา รอเลขเด็ดไว้ซื้อในงวดต่อไป

ที่เกริ่นถามเรื่องหวยมาแบบนี้ เพราะนู๋ดีเอง รู้สึกเสียดาย(และแอบเสียใจ)งวดที่ผ่านมา เพราะจริงๆ แล้วได้เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดงมา 3 ชุดด้วยกัน แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่า เลขของจริงมันมีกี่ชุดกันแน่ เพราะเพิ่งเข้ามาอยู่วงการ(หวย)นี้ไม่นาน เลยเอามาลงให้ดูกันแค่ 2 ชุดเท่านั้น ซึ่งก็ให้เลขมาตรงเหมือนกัน และคงมีหลายคนที่ถูกหวย แต่เหตุมันเกิดเพราะว่า หวยชุดที่ 3 ที่ไม่ได้เอามาลงให้ดู ซึ้งนู๋ดีได้มาจากเพื่อนคนหนึ่ง เค้าโทรมาถามนู๋ดีว่า ถูกหวยรึเปล่า? เพราะเค้าคิดว่านู๋ดีคงจะซื้อตามที่เค้าให้มา แต่ตัวนู๋ดีเองสับสน เพราะมันมีหลายชุดเหลือเกิน เลือกไม่ถูกว่าจะซื้อเลขไรดี จึงไม่ได้ดูชุดที่ 3 ที่เพื่อนให้มา ปรากฏว่า เพื่อนถูกหวย (อิจฉาๆ)เพราะชุดที่ 3 เลขที่หลวงพ่อปากแดงให้มาคือ 456 ถ้าได้เลขนี้ไป รับรองว่ายังไงก็รับทรัพย์เต็มๆ แน่นอน

นู๋ดีต้องกราบขออภัยคนที่ติดตามเลขเด็ดในบล็อกนี้ด้วยนะคะ คราวหน้าไม่ว่าจะได้เลขมากี่ชุดจะจัดมาให้ดูทั้งหมด ยังไงก็ขอฝากให้ทุกคนติดตามบล็อกนี้ด้วยนะคะ งวดหน้าใครมีเลขเด็ดอะไรก็มาโพสแบ่งกันดูนะคะ


นู๋ดี ^ ^

อ่านต่อ..

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2552

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2552

รางวัลที่ 1 รางวัลๆ ละ 2,000,000 บาท

930456

เลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท

044 125 179 954


เลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 1,000 บาท

15


รางวัลที่ 1
พิเศษ สลากฯ กลุ่มที่ 1 รางวัลละ 30 ล้านบาท ชุดที่ 18 หมายเลข 930456
สลากฯ กลุ่มที่ 2 รางวัลละ 30 ล้านบาท ชุดที่ 64 หมายเลข 930456

รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท

930455 930457

รางวัลที่ 2 มี 5 รางวัลๆ ละ 100,000 บาท

404322 496026 563812 599972 944693

รางวัลที่ 3 มี 10 รางวัลๆ ละ 40,000 บาท

016634 156055 248234 275861 374183
396599 611009 737165 759581 762411

รางวัลที่ 4 มี 50 รางวัลๆ ละ 20,000 บาท

063878 108834 119821 142421 178097
199090 266392 271946 308661 313359
327618 331333 384519 398953 399984
440092 451163 452188 470990 491881
523097 557206 588557 600884 613069
614586 615899 632747 652342 682443
697347 754833 757991 785336 792912
817081 827400 843075 877357 882616
884880 898049 901627 941003 949080
950600 971419 984698 990764 997701

รางวัลที่ 5 มี 100 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท

015057 018564 028676 054847 063976
066226 077775 092663 099273 101032
111523 120755 126247 127638 130937
133641 136018 149320 161281 186289
217885 225552 228840 230167 232026
243806 258469 273771 281223 297871
310024 313471 321645 322278 327751
334540 337911 366863 371185 373791
378413 380650 383469 384226 390742
401817 411516 446990 459684 462029
465136 487149 492016 492927 499411
500742 527688 537568 548709 550035
565556 565734 567595 588050 588604
591042 611128 614001 628430 651715
654835 656443 679551 690175 691419
716267 718633 741642 761148 766929
784996 795062 799770 808430 811015
813936 823018 827271 850250 873749
878206 879501 888358 933566 935795
946925 967920 987259 988431 999718





อ่านต่อ..

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิธีฆ่าตัวตายอย่างสงบ









อ่านต่อ..

เตือนภัย!...ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ



ถูกโคลนนิ่งซิมฯ...จ่ายเพิ่มไม่รู้ตัว

เทคโนโลยีสมัยใหม่ก้าวหน้าขึ้นทุกที ก้าวทันก็ดีไป หากก้าวไม่ทันอาจเสียทีตกเป็นเหยื่อเหล่ามิจฉาชีพเจ็บตัวซ้ำอีก โดยเฉพาะพวกหัวอัจฉริยะมักใช้มันสมองแบบผิด ๆ เอาเปรียบเพื่อนร่วมโลกด้วยการ “โคลนนิ่งซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ” ของคนอื่น แล้วนำไปใช้เองหรือไม่ก็ขาย เอากำไร แบบนี้ไม่รู้จะเรียกอัจฉริยะหรือโจรกันดี?...

แต่ที่แน่ ๆ ขณะนี้มีการประกาศขายเครื่องโคลนนิ่งซิม การ์ดโทรศัพท์มือถือทางเว็บไซต์กันอย่างโจ่งครึ่มด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป โดยมีการอธิบายรายละเอียดสรรพคุณและขั้นตอนการทำอย่างเสร็จสรรพ หากใครสนใจซื้อก็มีบริการจัดส่งให้ทางไปรษณีย์อีกต่างหาก ถ้าต้องการเอาไปโคลนนิ่งซิมฯ ของตัวเองเพื่อให้พ่อแม่พี่น้องหรือแฟนใช้ก็ดีไป แต่หากไปขโมยซิมฯ คนอื่นมาโคลนนิ่งแล้วนำไปใช้เองหรือนำไปขายก็แย่สิ..! เพราะ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังถือเป็นการเอาเปรียบและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นด้วย

ผศ.ดร.ชนวัฒน์ ศรีสอ้าน คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การคัดลอกข้อมูลของซิมการ์ดโทรศัพท์ มือถือ (Cloning Sim Card) เพื่อทำซิมการ์ดอันใหม่ที่เหมือนกันหรือที่เราเรียกว่า การโคลนนิ่งนั้นในต่างประเทศทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีโทรศัพท์มือถือจำนวนหลายเครื่องและมีความประสงค์ที่จะโคลนนิ่งซิมการ์ดฯ ใช้เองโดยจะได้ไม่ต้องยุ่งยากคอยถอดเปลี่ยนซิมฯ จากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่ง จึงมีการอนุญาตให้ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่สำหรับในประเทศไทยเองเมื่อก่อนมีกฎหมายห้ามทำซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือซ้ำ ให้มีแค่เบอร์เดียว อันเดียว

แต่ในปัจจุบันมีเจ้าของบริษัทซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ขออนุญาตทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเช่นกัน หากลูกค้าต้องการทำก็สามารถทำได้ จึงทำให้มีอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นอีก 1 ชิ้น เป็นช่องทางในการหากินของพวกมิจฉาชีพเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ช่องทางด้วยการลักลอบนำวิธีนี้มาใช้แบบ ผิด ๆ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า การลักลอบทำซิมการ์ดเถื่อนขาย

การทำโคลนนิ่งซิมการ์ดเถื่อนมีวัตถุประสงค์ 2 แบบ คือ เพื่อต้องการโทรศัพท์หรือ ส่งข้อความด่าว่าผู้อื่นด้วย ถ้อยคำหยาบคาย โดยที่เจ้าตัว ไม่สามารถจับได้ ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นกับดาราและมีการแจ้งความจนเป็นข่าวไปแล้ว ส่วนอีกแบบหนึ่งคือ ทำมาเพื่อขายให้คนอื่นนำไปใช้โดยที่เจ้าของซิมการ์ด โทรศัพท์มือถือ ไม่ทราบทำให้รับเคราะห์มีภาระจ่ายค่าโทรศัพท์เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งทั้ง 2 วิธีหากเกิดขึ้นโดยเฉพาะวิธีที่ 2 ถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก

ถึงแม้ความเสียหายจะรุนแรงไม่เท่ากับการถูกแก๊งคนร้ายขโมยข้อมูลบัตรเครดิตจากแถบแม่เหล็กที่มีมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาทก็ตาม แต่การถูกโคลนนิ่งซิมการ์ดฯ ก็ทำให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเกิด ความเสียหายรำคาญใจและเสียสุขภาพจิตได้เช่นกัน บางครั้งเราหาตัวคนผิดไม่ได้ก็ตัดความรำคาญโดยการเปลี่ยนซิมการ์ดอันใหม่ ทำให้กลุ่มคนพวกนี้ได้ใจยังคงลอยนวลสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอยู่เรื่อย ๆ

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอาจจะน้อยเพราะแต่ละบริษัทมีระบบป้องกันให้ผู้ใช้บริการ โดยมีการกำหนดเพดานการใช้โทรศัพท์ให้กับลูกค้า เช่น แบบจดทะเบียน รายเดือนมีวงเงินให้ใช้ได้ไม่เกินจำนวน 2,000-5,000 บาท หากใช้เต็มวงเงินก็ไม่สามารถใช้การได้ต้องชำระค่าบริการเสียก่อนจึงจะสามารถเปิดใช้บริการได้อีกครั้งหรือบางรายเป็นแบบระบบเติมเงินมีตั้งแต่ราคา 50-500 บาท ถือว่าไม่มาก แต่การที่เราถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยลักษณะดังกล่าวก็ไม่สมควรจะเกิดขึ้น

โดยหลักการแล้ว การโคลนนิ่งซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือแตกต่างจากการทำซ้ำ (Copy) โดยขั้นตอนการทำโคลนนิ่ง เป็นวิธีที่สลับซับซ้อนและใช้เวลามากเพราะมีรหัสหลายตัว จึงจะสามารถโคลนนิ่งให้เหมือน กันเพื่อนำมาใช้กับ โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งได้ ส่วนค่าโทรศัพท์นั้นจะไปรวมกับซิมการ์ดหมายเลขต้นฉบับที่ถูกโคลนนิ่ง ซึ่ง การใช้ความชำนาญเช่นนี้ เชื่อว่าคงหนีไม่พ้นฝีมือ ชาวต่างชาติที่ลักลอบเข้ามา สร้างเครือข่ายและทำกันเป็นขบวนการ แต่ถ้าเป็นคนไทยทำเองก็ถือว่าน่า เป็นห่วงเช่นกัน ส่วนรูปแบบวิธีการทำนั้นยังคงตรวจสอบกันอยู่ว่าใช้วิธีใด ยิ่งปัจจุบันทราบว่า มีการประกาศขายเครื่องโคลนนิ่งซิมการ์ดฯ ทางอินเทอร์เน็ตแล้วยิ่งน่ากลัวเพราะถ้าหากเครื่อง ที่ว่านี้เกิดใช้งานได้จริงอย่างที่กล่าวอ้างก็จะสร้างความเสียหายได้ไม่น้อยทีเดียว ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเข้ามาดูแลและตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร

สำหรับ การทำซ้ำ (Copy) ข้อมูลในซิมการ์ดแตกต่างจากการโคลนนิ่งตรงที่ทำได้ง่ายเพียงแค่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ดูดข้อมูลจากซิมการ์ดฯ มาเก็บไว้ ซึ่งวิธีนี้ไว้ใช้สำหรับคนที่ต้องการเก็บข้อมูลในซิมการ์ดฯ เพื่อป้องกันข้อมูลหาย เพราะเวลาโทรศัพท์มือถือหายข้อมูลใน ซิมการ์ดก็จะหายตามไปด้วย เช่น หมายเลขโทรศัพท์หรือรูปภาพ บางครั้งเรานำไปให้ร้านที่ ไม่ได้มาตรฐานทำ อาจจะถูกดูดข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดสร้างความ เดือดร้อนให้เราอีกด้วย ถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งอย่างที่เราทราบกันดี

ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ทราบวิธีที่ชัดเจนว่า การลักลอบขโมยข้อมูลจากซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อโคลนนิ่งในรูปแบบใด แต่ ควรป้องกันไว้ก่อน โดยก่อนนำโทรศัพท์ส่งซ่อมควรถอดซิมการ์ดฯ เก็บไว้เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งการนำโทรศัพท์ไปโหลดโปรแกรมเพื่อความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการโหลดเพลง รูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือ เกมตามร้านต่าง ๆ รวมทั้ง ซื้อเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทาง ที่ดีถ้าไม่จำเป็นอย่านำโทรศัพท์มือถือวางทิ้งไว้ห่างตัว หรืออยู่กับทางร้านโทรศัพท์เป็นเวลานานเกินไป

นอกจากนี้เราต้องรู้จักสังเกตการใช้โทรศัพท์ในแต่ละเดือนว่าเราใช้อยู่ที่จำนวนเงินเท่าใด หากรู้สึกว่ามากเกินกว่าปกติควรติดต่อยังบริษัทเจ้าของ ซิมการ์ดฯ เพื่อขอข้อมูลการใช้ โทรศัพท์ว่าเราใช้โทรฯ ไปที่ใดบ้าง เช่น ในรายการบอกว่าใช้โทรศัพท์ที่กรุงเทพฯ แต่อีก 5 นาที ต่อมากลับไปใช้ที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งไม่มีความเป็นไปได้ เชื่อว่าน่าจะถูกโคลนนิ่งซิมการ์ดฯ และ มีผู้นำไปใช้ที่ต่างจังหวัด กรณีนี้ต้องรีบแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไปร้องเรียน สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์เสียใหม่

ในขณะที่ค่ายโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่ได้ออกมายืนยัน “ระบบ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือของบริษัทเรามีระบบป้องกันการโคลนนิ่งอยู่แล้ว” ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ “เอไอเอส” ยืนยันเพิ่มเติม พร้อมให้ความรู้ว่า เทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้น ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ต้องพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้นสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน เราจึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาระบบการป้องกันความปลอดภัยให้ลูกค้า โดยระบบซิม การ์ดฯ ของบริษัทไม่สามารถโคลนนิ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ เพราะเรามีสเปกของซิมการ์ดที่แน่นอนและมีระบบเน็ตเวิร์กที่ป้องกันไม่ให้เกิดการโคลนนิ่งได้ ลูกค้าจึงไม่ต้องประสบปัญหานี้ ถึงแม้บริษัทจะมีบริการการขายแบบ 1 เบอร์มีหลายซิมการ์ดก็ตาม ซึ่งตรงนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว

โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าการใช้โทรศัพท์มือถือของประชาชนในปัจจุบันส่วนมากจะใช้แบบระบบเติมเงินกันเป็นส่วนใหญ่ หากถูกโคลนนิ่ง ซิมการ์ดจริงจะต้องทราบเพราะในเมื่อเราไม่ได้ใช้แต่ยอดเงินกลับหมดไป จึงสังเกตเองได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตามแม้จะมีกลุ่มบุคคลพยายามนำเทคโนโลยีมาใช้ในแบบผิด ๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการพัฒนา เพื่อสร้าง ความปลอดภัยได้เช่นกัน

เทคโนโลยีที่ทันสมัยเปรียบเสมือนดาบสองคม หากเรารู้จักนำมาใช้ให้ถูก วิธีจะเกิดประโยชน์มากมาย มหาศาล แต่ถ้านำมาใช้แบบผิด ๆ สร้างความเดือดร้อน ให้ผู้อื่นถือว่าผิดกฎหมาย หากจับได้ต้องถูกดำเนินคดี ลองคิดดูว่าคุ้มกันหรือไม่กับการที่ได้กำไรเพียงน้อยนิดแต่แลกกับการเสียอนาคตและทำลายประเทศชาติ!!

กรวิกา คงเดชศักดา

ที่มา : เดลินิวส์

อ่านต่อ..

ได้แล้ว4ชื่อแพนด้าน้อยรอลุ้นโหวต


ขวัญไทย-หลินปิง-ไทจีน-หญิงหญิง สุดยอด 4 ชื่อ “แพนด้าน้อย” ที่พี่น้องชาวไทยจะร่วมโหวตชิงดำ 1 เดียว คว้าเงิน 1 ล้านบาท บินลัดฟ้าท่องแดนมังกร หลังประชาชนแห่ส่งรายชื่อตามไปรษณียบัตร-เอสเอ็มเอส รวม 6 แสนคน จาก 54,000 รายชื่อ คณะกรรมการเปิดให้ส่งไปรษณีย์บัตรพิเศษ จนถึงวันที่ 5 ส.ค. ก่อนประกาศชื่อคะแนนมากสุด วันที่ 12 ส.ค. ด้าน “แพนด้าน้อย” อายุครบ 20 วัน สุขภาพสมบูรณ์ดี ส่วนสวนสัตว์เชียงใหม่ ตื่นไข้หวัดมรณะ สั่งสำรองหน้ากากนามัยแจกพนักงาน พร้อมออกแนวปฏิบัติเฝ้าระวังหวั่นลุกลามสัตว์

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับเป็นวันที่ 20 แล้วที่แพนด้าน้อยเกิดมาลืมตาดูโลก โดยในตอนเช้านายเหว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญหมีแพนด้าจากประเทศจีน พร้อมทีมวิจัยหมีแพนด้า ได้นำลูกแพนด้าน้อยออกมาจากอ้อมอกของหลินฮุ่ย เพื่อนำมาตรวจสุขภาพ และทดสอบระยะเวลาที่แม่จะยอมให้ลูกแพนด้าห่างจากอกของแม่หมีหลินฮุ่ย ซึ่งหลินฮุ่ยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยอมให้ลูกแพนด้าน้อยอยู่กับพี่เลี้ยงภายใน 2 นาที

จากการตรวจสุขภาพพบลูกแพนด้าน้อย มีความสมบูรณ์แข็งแรงดีมาก น้ำหนักปัจจุบัน 810 กรัม เพิ่มขึ้นจากเดิม 180 กรัม ความยาวลำตัว 26 ซม. เพิ่มจากเดิม 2 ซม. ความยาวหาง ขา และรอบอกเท่าเดิม สามารถนอนในตู้อบได้โดยไม่ต้องห่มผ้า ชอบนอนในท่าคว่ำ ไม่ชอบนอนหงาย จะร้องและดิ้นทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่จับในท่าหงาย สามารถยกตัว และหัวได้ดี ยังคงไม่สามารถคลานได้ แข็งแรงสมบูรณ์ดีเยี่ยม ซึ่งทางทีมงานจะดำเนินการแยกลูกหมีอีกครั้ง ในวันที่ 18 มิ.ย. 52 เพื่อติดตามการเจริญเติบโต

สพญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวแพนด้า เปิดเผยว่า ผลการตรวจสุขภาพแพนด้าน้อยวันนี้แนวโน้มน้ำหนักจะเพิ่มแบบก้าวกระโดดต่อไปเรื่อย ๆ สีของลูกแพนด้าก็มีสีเข้มขึ้นชัดเจนในทุกสัดส่วนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนตัวหลินฮุ่ย เองก็มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ดี สำหรับการเตรียมการป้องกันเชื้อโรคจากผู้เข้าชมที่จะเดินทางมาชมแพนด้าน้อยในวันที่ 4-6 ก.ค.นั้น ที่ทุกคนหวั่นเกรงกันมีอยู่ 2 โรคคือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมถึงโรคหัดสุนัข ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะเริ่มนำถาดน้ำยาฆ่าเชื้อมาวางที่พื้นบริเวณทาง รวมทั้งก่อนวันงานจะมีการติดตั้งพัดลมไอน้ำสำหรับ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ โดยทางสวนสัตว์ได้มีมาตร การรองรับไว้ล่วงหน้าทั้งการจัดอบรมให้ความรู้พนักงาน สำรองหน้ากากอนามัยเพื่อแจกพนักงาน สำรองน้ำยาฆ่าเชื้อและเจลเพื่อใช้ในสวนสัตว์

ต่อมา นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วย ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้พาสื่อมวลชนเข้าชมโดมหิมะ ซึ่งหลังจากปรับปรุงระบบมานานหลายวัน วันนี้เป็นกำหนดทดลองระบบทำความเย็น ระบบสร้างหิมะ 100% และจะมีการส่งมอบงานให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่เพื่อใช้เป็นที่พักของหมีแพนด้า และเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมและเล่นหิมะในโดมหิมะได้ โดยกำหนดการเปิดให้เข้าชมยังคงต้องรอการตกแต่งสภาพภายในและจะมีการกำหนดวันให้ประชาชนได้เข้าชมอีกครั้งหนึ่ง

วันเดียวกัน ที่หอประชุมห้องแสตมป์ทอง บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (แจ้งวัฒนะ) ได้มีการจัดคัดเลือกโครงการประกวดตั้งชื่อลูก หมีแพนด้า ที่เข้ารอบ 4 ชื่อสุดท้าย เพื่อนำไปจัดทำไปรษณียบัตรพิเศษ และให้ประชาชนร่วมโหวตการตั้งชื่อลูกหมีแพนด้า จำนวน 30 ล้านฉบับ โดยมี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ร่วมกับ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ประธานคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ดร.โสภณ ดำนุ้ย ผอ.องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด

สำหรับขั้นตอนทางคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 27 ท่าน ได้คัดเลือกรายชื่อที่ประชาชนทั่วประเทศส่งมาร่วมประกวดทั้งทางไปรษณียบัตร และเอสเอ็มเอส รวมทั้งหมด 560,000 คน มีจำนวนรายชื่อทั้งหมด 54,000 รายชื่อ โดยคณะกรรมการได้คัดรายชื่อในรอบแรกเหลือ 300 รายชื่อ ก่อนจะมาคัดเลือกในรอบสองเหลือ 10 รายชื่อ คือ เขืองอ้าย, ปิงปิง, ไทจีน, ไท่ผิง, ผิงผิง, หลินปิง, เอื้องหลิน, หญิงหญิง, ขวัญไทย และหยวนหยวน

และในที่สุดการคัดเลือกรายชื่อในรอบ สุดท้าย คณะกรรมการได้ลงคะแนนให้ 4 ชื่อ ที่เข้ารอบ คือ 1.ขวัญไทย มีประชาชนส่ง 1,355 คน 2.หลินปิง มีประชาชนส่ง 282 คน 3.ไทจีน มีประชาชนส่ง 554 คน และ 4.หญิงหญิง มีประชาชนส่ง 295 คน ต่อจากนี้คณะกรรมการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป โหวตหาชื่อที่ชนะ เพียงชื่อเดียว เพื่อตั้งเป็นชื่อแพนด้าน้อย

โดยที่ไปรษณียบัตรพิเศษชุดหมีแพนด้า จะเริ่มวางจำหน่ายในกทม.และปริมณฑล ตั้งแต่ 19 มิ.ย. เป็นต้นไป ส่วนต่างจังหวัด เริ่ม 22 มิ.ย. ในราคาแผ่นละ 5 บาท เงื่อนไขในการเลือก ให้ทำเครื่องหมายถูกหน้าชื่อที่ต้องการเพียงชื่อเดียวเท่านั้น ส่งได้ทั้งที่ ปณ.และหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ทุกแห่ง กำหนดส่งไปรษณียบัตรโหวตเสียงได้จนถึงวันที่ 5 ส.ค. 2552 เวลา 18.00 น. หลังจากนั้นจะเริ่มคัดแยก แต่ละชื่อออกเป็น 4 กอง ระหว่างวันที่ 5-10 ส.ค. นับจำนวนเสียงโหวตมากที่สุดด้วยวิธีการชั่งน้ำหนัก (1 กก. ประมาณ 350 ใบ) และวันที่ 12 ส.ค. ประกาศชื่อที่ได้รับเสียงโหวตจากประชาชนมากที่สุดเพียงชื่อเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชื่อไทย หรือชื่อจีน หลังจากนั้นจะจับรางวัลจากไปรษณียบัตรชื่อที่ได้รับเสียงโหวตมากที่สุด

จากนั้นคณะกรรมการก็จะมอบเงินรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดชื่อทั้ง 4 ชื่อ คนละ 1 แสนบาท และได้บินไปเที่ยวที่เมืองเฉินตู ประเทศจีน ส่วน 4 ชื่อสุดท้าย ชื่อไหนที่ประชาชนโหวตชอบมากที่สุดจะนำไปรษณียบัตรในกลุ่มที่ประชาชนต้องการมากที่สุดออกมาจับรางวัลหาผู้โชคดี ได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และรถยนต์อีก 1 คัน รวมทั้งได้เดินทางไปเที่ยวที่เมืองเฉินตู ประเทศจีน เช่นกัน

ขณะที่นางปรียวรรณ ไชยเชษฐ์ พยาบาลโรงพยาบาลค่ายสุรนารี มารดาของ ด.ญ.พิชญ์สินี ไชยเชษฐ์ นักเรียนชั้น ป.2/8 โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา อยู่บ้านเลขที่ 2986/1 ซอยเดชอุดม 20/6 ถนนเดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็น 1 ในรายชื่อ 4 ชื่อสุดท้าย กล่าวว่า ลูกสาวได้มานั่งคิดชื่อลูกหมีแพนด้าน้อยอยู่กับพี่สาว ก่อนจะมาบอกว่าจะส่งชื่อ “หลินปิง” และ “เอื้องฟ้า” ไปประกวด จากนั้นตนจึงพาไปซื้อไปรษณียบัตร 23 ใบ ก่อนจะมาเขียนชื่อแล้วส่ง หลังลูกสาวทราบข่าวเจ้าตัวถึงกับดีใจ สำหรับเงินที่ได้จะเก็บไว้เป็นค่าทุนการศึกษาต่อไป

ส่วนนายสุรพล สุริยะ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 11 ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้โชคดีเช่นกัน กล่าวว่า ตนได้ส่งชื่อ “ไทจีน” เข้าร่วมประกวดการตั้งชื่อลูกหมีแพนด้า ผ่านทางเอสเอ็มเอสไปยังรายการบุษบาบานเช้า ซึ่งเป็นรายการสดทางสถานีโทรศัพท์กองทัพบกช่อง 5 โดยส่งไปเพียง 1 ครั้งและไม่คิดว่าจะติด 1 ใน 4 ชื่อที่ได้รับเลือก สำหรับเงินที่ได้จะนำไปใช้หนี้ ที่เหลือ จะเก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้หลังทราบผลโหวตได้มีเจ้าหน้าที่ของรายการบุษบาบานเช้า ติดต่อให้ตนไปออกรายการในเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. นี้ด้วย

นายพลชัย สุเมธาชาติ อายุ 91 ปี เจ้าของร้านตัดผมป้อมบาร์เบอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 91 ถนนพลดำริห์ เขตเทศบาลตำบลกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ชื่อ “ขวัญไทย” ของตนเองที่ส่งไปร่วมตั้งชื่อลูกหมีแพนด้า ได้รับการพิจารณา ส่วนรางวัลและตั๋วเครื่องบินที่ได้รับจะแบ่งให้ลูก ๆ ทั้ง 5 คน.

ที่มา : เดลินิวส์

อ่านต่อ..

กะเทย รักแท้ให้ตร.จับกัญชาหาคนรักในคุก


“พิสูจน์รักแท้” กะเทยยุค 2009 ลงทุนซื้อกัญชาหิ้วขึ้นโรงพักให้ตำรวจจับหน้าตาเฉย ประกาศก้องต้องการกลับไปหาคนรักในคุก ระบุก่อนหน้าถูกจับเสพยาไอซ์เหมือนฟ้าลิขิตไปเจอแฟนหนุ่มในเรือนจำฯ กรี๊ด...ถูกปล่อยตัวออกมาได้อาทิตย์กว่า คิดถึง-สุดทนหวานใจต้องติดอีกปีกว่าถึงจะได้เจอตัวเป็น ๆ สุดท้ายต้องงัดวิธีพิลึกเพื่อให้ถูกจองจำ ตร.มึนคดีแปลก เปรยอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง อยู่ข้างนอกสุขสบายกว่าอยู่ในคุกร้อยเปอร์เซ็นต์

กะเทยรักแท้หิ้วกัญชาขึ้นโรงพักให้ตำรวจจับเข้าคุก เพื่อไปพบแฟนหนุ่ม เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 15 มิ.ย. พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.เมืองชลบุรี พ.ต.ต.สันติ ชูเชิด สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอณัฐสนนท์ วะลัยใจ อายุ 21 ปี สาวประเภทสอง อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 4 ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสายนายอณัฐ สนนท์ ได้นำกัญชา 1 ถุงเล็กเดินเข้ามามอบให้เจ้าหน้าที่บนโรงพัก พร้อมแจ้งความจำนงอยากติดคุก สาเหตุเพราะต้องการกลับไปหาคนรักที่จำคุกอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี เบื้องต้นตำรวจจึงต้องดำเนินคดีในข้อหามีกัญชาไว้ในครอบครอง

จากการสอบสวนนายอณัฐสนนท์ ให้การว่า ตนเคยเต้นอะโกโก้ที่เมืองพัทยา ต่อมาถูกจับข้อหาเสพยาไอซ์ ศาลพิพากษาให้จำคุก ช่วงเวลาดังกล่าวเหมือนฟ้าประทานตนได้พบรักกับนายอาทิตย์ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 26 ปี ซึ่งถูกจับข้อหาครอบครองยาไอซ์ ทั้งนี้ตนถูกปล่อยตัวออกมาได้อาทิตย์กว่า แต่ด้วยความคิดถึงประกอบกับทนไม่ไหวเนื่องจากคนรักเหลืออีกปีกว่าถึงจะเป็นอิสรภาพก็เลยจำเป็นต้องใช้วิธีดังกล่าวเพื่อกลับเข้าไปหาคนรักในเรือนจำฯ

พ.ต.อ.นภดล กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแปลก แต่เมื่อพบผู้กระทำความผิดตำรวจก็ต้องจับกุมดำเนินคดี อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนไม่พบสิ่งผิดปกติอย่างอื่น คาดว่าน่าจะเรื่องของความรักที่ทำให้นายอณัฐสนนท์ตาบอด อย่างไรก็ตามไม่อยากให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะอยู่ข้างนอกสุขสบายกว่าอยู่ในคุกแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์.

ที่มา : เดลินิวส์

อ่านต่อ..

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

10 ฟอเวิร์ดเมล์ที่น่ารำคาญ

ได้เมล์นี้มาเลยเอามาแชร์กันอ่านค่ะ ยาวหน่อยนะ


เพื่อคนไทยจะได้เลิกโง่ และมีวิจารณญาณทางความคิดขึ้นมาบ้าง เลิกงมงายกันซักทีแล้วแหกตากว้าง ๆ ดูโลกกันเสียบ้าง จริงเท็จแยกให้ออกโดยเฉพาะเรื่องแฉ ๆ ต่าง ๆที่เป็นแค่ลมปาก ไม่มีการพิสูจน์เสือกเชื่อกัน...ฯลฯ


เหตุผลที่บอกเล่าเรื่องนี้ ก็เพื่อที่จะให้ทุกคนเลิกฟอร์เวิดเมลไร้สาระซะที 'มันน่ารำคาญมาก'


ถ้าอยากรู้ว่าไร้สาระยังไงก็อ่านซะ

อันดับ10 - อีเมล์ลูกโซ่

...ใช่แล้วครับทุกท่าน มันก็คือ จดหมายลูกโซ่ธรรมดานี่แหละ
ที่ส่งกันมาส่งแล้วส่งเล่าตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยังจีบกันด้วยจดหมายรัก จนถึงยุคที่อินเตอร์เน็ตส่งข้อมูล 10 MB ต่อวินาทีได้แล้ว ก็ยังมีจดหมายแบบนี้อยู่บนโลกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แถมเนื้อหาก็ยังลอกมาจากต้น
ฉบับอาจารย์วิจิตรธรรมโชติเมื่อ 30 ปีก่อนยังไงอย่างนั้น ช่างน่าภูมิใจจังที่เราสามารถอนุรักษ์มรดกของชาติได้เยี่ยมขนาดนี้ เนื้อหาก็จะประมาณว่าจดหมายฉบับนี้มีมนต์วิเศษ ส่งต่อ 20 คนจะโชคดี ถ้าไม่ส่งตายแน่ เหมือนอย่างนายสมชายสมหมายทหารอากาศอะไรทั้งหลายแหล่ ที่ตายแล้วตายอีกในหลักฐานอ้างอิงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ถ้าท่านอยากเป็นคนงมงายในยุคอินเตอร์เน็ตก็เชิญส่งต่อนะครับ แต่ถ้าอยากฉลาดขึ้นบ้างก็...ลบทิ้งเสียเถอะ


อันดับ 9 - เจ้าแม่กวนอิมโชคดี + พระพิฆเนศโชคดี

... สมัยนี้เค้าเผยแพร่ความโชคดีบนอินเตอร์เน็ตแล้วครับท่านผู้อ่าน เมล์ประเภทนี้จะมีรูปเจ้าแม่กวนอิมหรือไม่ก็พระพิฆเนศที่ถ่ายมาจากไหนก็ไม่รู้ รู้แต่มันเหมือนกันทุกฉบับเลย
ดูเผินๆ บางคนอาจจะแย้งว่า คนส่งเค้าอยากให้คนได้รับโชคดีไง จะบอกว่าเนื้อหาหลักๆ เหมือนกับอันดับ 10 ไม่มีผิดเพี้ยนครับ แค่เปลี่ยนคำว่าโชคร้ายเป็นโชคดีเท่านั้น แถมยังขู่เหมือนเดิมว่าถ้าไม่ส่ง ซวยแน่ กร๊ากๆๆๆ
บางเวอร์ชั่นดีหน่อยครับที่ไม่ได้ขู่มาด้วย

แต่อยากจะบอกว่าการที่เราเช็คเมล์ แล้วพบเมล์จากเพื่อนๆ 10คน
ต่างคนต่างส่งเมล์หัวข้อนี้มาเหมือนกันทุกคน เรียงเป็นตับในเมล์บ็อกซ์ของเรามันน่ารำคาญโว้ยยยยย


อันดับ 8 - ลูกผมป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว

... อันดับนี้จะว่าดีก็ดี จะว่าร้ายก็ร้าย คือดูเผินๆ แล้วผู้ส่งต้องการความช่วยเหลือแน่ๆ จึงมาโพสท์แบบนี้
บวกหน้าตาที่อยู่พร้อม แต่จะบอกว่าเมล์แบบนี้ ห้าปีผ่านไปก็ยังฟอร์เวิร์ดกันให้เกลื่อน
คือ ถ้าลูกคุณป่วยเป็นมะเร็งและต้องการความช่วยเหลือด่วน แต่ยังรอคนใจดีอยู่ได้ตั้ง 5 ปีแบบนี้
ขอคาดการณ์ว่าร่างกายคงมีภูมิต้านทานดีขนาดหนักแล้วครับ ไม่ก็ตายไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องฟอร์เวิร์ดต่อหรอก เพราะมีกรณีนึงที่มีคนลองติดต่อไปแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง
แต่ทางต้นสายบอกว่าเป็นเรื่องเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ผลร้ายจากความใจดีของพวกเรานั่นเองที่เห็น
แล้วสงสาร ฟอร์เวิร์ดไปเรื่อยๆ เผื่อจะเจอใครที่ใจบุญกว่า แต่บอกตามตรง เท่าที่เคยประสบมา
คนฟอร์เวิร์ดจะไม่ให้ความช่วยเหลือ ส่วนคนช่วยเหลือจะไม่ฟอร์เวิร์ด ฮ่วย!

ถึงผู้ใดก็ตามที่ประสบปัญหาแนวๆ นี้ ขอแนะนำว่าอย่าส่งทางเมล์เลยครับ เพราะเมื่อมันเผยแพร่ในโลกไซเบอร์แล้ว มันค้างนาน และมันจะกระจายเป็นวงกว้างซึ่งไม่มีทางยับยั้งได้
แม้คุณจะได้รับการช่วยเหลือแล้วคุณก็ยังอาจจะได้รับการติดต่อมาอีกต่อไปเป็น ปีๆ ทางที่ดีไปลงประกาศในหนังสือพิมพ์หรืออะไรทำนองนั้นดีกว่านะ


อันดับ 7 - ไม่ส่งต่อ ไม่มีแฟน

... ไม่รู้ว่าคนเราสมัยนี้กลัวการไม่มีแฟนมาก หรือไม่ก็ไม่มั่นใจในฝีมือการจีบของตัวเอง จึงส่งกันเป็นว่าเล่น เมล์ประเภทนี้จะขึ้นต้นด้วยข้อความดีๆ ภาพน่ารักๆ แต่ลงท้ายด้วยข้อความประมาณว่า

ส่ง 1-5 คน จะโชคดีเล็กๆน้อย
ส่ง 6-15 คน จะเจอเนื้อคู่
ส่ง 16-30 คน เนื้อคู่จะโทรมาหาใน 10 นาที (ดูมัน ยังกะโฆษณาทีวีไดเรคต์)
และถ้าไม่ส่ง โสดตลอดชาติ ประมาณนี้เป็นต้น สังเกตว่ามีระดับความโชคดีให้เลือกด้วย ใครคิดว่าตัวเองโชคดีอยู่แล้วก็ส่งน้อยๆ ใครคิดว่าดวงซวยก็ส่งเยอะๆ อืม...เหมือนชิงโชคเลยเนอะ แต่รู้สึกส่งชิงโชครายการคุณปัญญาจะมีโอกาสมากกว่าซะอีกนะ

อยากบอกว่า..แฟนถ้าจะมีมันก็คงจะมีเองแหละ ไม่เกี่ยวกับโชคลางบนเน็ตซะหน่อย


อันดับ 6 - กินชาเขียวเย็นเป็นอันตราย

... เมล์ประเภทนี้มีมาเป็นระยะๆ ตามแต่ว่าอะไรที่ฮิตในช่วงนั้น ช่วงแรกมันเป็นโค้ก กินโค้กแล้วอันตราย เอาตะปูแช่โค้ก 1 วัน ตะปูละลาย

ต่อมาก็เป็นชาเขียวเย็น กินแล้วไขมันจับ เพราะมันเย็น พิสูจน์ได้ด้วยการเทชาเขียวเย็นลงในชามก๋วยเตี๋ยว แล้วจะเห็นไขมันจับเป็นก้อน ปัดโธ่ เทอะไรเย็นๆ ลงน้ำซุป มันก็จับหมดแหละคุณ (ไม่เชื่อไปลองดูได้) หรือไม่ต้องเทน้ำอะไรหรอก เอาก๋วยเตี๋ยวไปแช่เย็น สักพักมันก็จับไขแล้ว เมล์แบบนี้จะใช้ข้อความเหมือนยกข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาอ้าง

ซึ่งถ้าใครฉลาดๆ หน่อยก็จะจับผิดได้ว่ามันไม่เป็นจริง ส่วนใครโง่ๆ ก็...ฟอร์เวิร์ดต่อปายยย (ล่าสุดนี่รู้สึกจะเป็นโรตีบอยแล้วนะ มันอินเทรนด์ดีโว้ยคนเขียนเมล์แบบนี้)


อันดับ 5 - จุดจบประเทศไทย

... เขียนโดย นิติภูมิ เนาวรัตน์ ชายหนุ่มผู้มองเห็นประเทศอื่นดีกว่าเราในทุกด้าน ส่วนเมืองไทยนั้นกระจอก คอรัปชั่น เฮงซวย ล่มสลายแน่ๆ ถ้าไม่เชื่อกรู ไม่รู้มันเกิดมาเป็นคนไทยทำไมเหมือนกัน เมล์ชนิดนี้เนื้อหาเหมือนต้นฉบับเพราะลอกมา เนื้อหาจะเกี่ยวกับประเทศไทยในปี 2550 ที่จะถูกน้ำท่วม ภัยพิบัติ ฯลฯ สุดท้ายก็จะกลายเป็นเหมือนอาร์เจนติน่า ฯลฯ ดีเหมือนกันวงการฟุตบอลบ้านเราจะได้ไปบอลโลกซะที

เมล์แบบนี้จริงๆ ก็จัดว่ามีประโยชน์ เสียแต่ว่ามันทำให้เกิดความแตกแยกได้ง่าย หากผู้อ่านไม่มีวิจารณญาณ จริงๆ คือพวกเราได้แต่อ่านแล้วก็ส่ง ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเกลียดคนที่ถูกอ้างถึงในเมล์ โดยไม่มีหลักฐานอย่างอื่นประกอบการตัดสินใจเลย อีกอย่างคือ เมล์แบบเนี้ยไม่ต้องส่งหรอก ถ้าในปี 2550 มันจะเป็นอย่างที่อ้างจริงๆ ผู้เขียนเค้าก็มีหลักฐานการเขียนของเค้าอยู่แล้วแหละ ไม่ต้องส่งต่อเพียงเพื่อประกาศให้รู้ว่ากรูเก่งหรอก มันน่ารำคาญรู้มั้ย เพราะว่ามีเมล์เนื้อหานี้ในเมล์บ็อกซ์เกือบร้อยฉบับแล้ว


อันดับ 4 - ฟอร์เวิร์ดไป 18 คนแล้วกด Alt+F8

... ไม่รู้ว่ามีที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเป็นเพราะโปรแกรมอีเมล์เมื่อสมัยสิบปีก่อนมีฟังก์ชั่น Atl+F8 ก็ได้ ปัจจุบันมันไม่มีใช้แล้ว แต่เมล์แบบนี้ก็อาศัยความอยากรู้ของผู้ส่ง มาทำให้มันถูกฟอร์เวิร์ดมาเรื่อยๆ นับสิบปีแล้ว (พูดตรงๆ ก็คือผมได้เมล์แบบนี้มาตั้งแต่เริ่มเล่นเน็ตเมื่อปี 2543 จนบัดนี้ก็ยังได้รับอยู่) เนื้อหาก็จะเป็นว่า มียายแกไปซื้ออาหารหมา อาหารแมว สุดท้ายก็ให้คนขายล้วงไปในกล่อง ถ้าอยากรู้ว่าในกล่องมีอะไร ให้ฟอร์เวิร์ดไป 18 คน แล้วกด Atl+F8 หรืออะไรทำนองนี้ ก็จะพบคำตอบ
บางเมล์เล่นง่ายกว่านั้น ไม่ต้องอารัมภบทมาก มาถึงก็บอกให้ส่งเลย แล้วกดดูจะพบว่ามีอะไรเปลี่ยนไป

ไม่ต้องส่งต่อนะครับ ขอร้อง เพราะตั้งแต่มันถูกส่งมาในโลกนี้ ยังไม่เคยมีใครสักคนรู้เลยว่ากด Atl+F8
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ...จริงๆ อาจจะพบก็ได้ ...พบว่าตัวเอง...โง่...นั่นเอง


อันดับ 3 - รูปถ่ายวิญญาณ ชายผู้ล่วงลับ

... เมล์แบบนี้เอาความน่ากลัวเข้าว่า เริ่มจากบอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่ไปเที่ยวป่า แล้วถ่ายรูปติดวิญญาณมา สองสามวันถัดมาเขาก็ตาย หากใครไม่อยากตาย ให้ส่งต่อ 10 คน มิฉะนั้นวิญญาณในรูปจะตามไปที่บ้าน ตบท้ายด้วยรูปถ่ายวิญญาณที่น่ากลัวก็จริง

แต่รู้ว่าตัดต่อ เพราะไอ้ผีในรูปนั้น ไปเสิร์ชเวบผีเวบไหนมันก็มี (ใครไม่มี เชยมาก) เป็นรูปต้นแบบที่ถูกนำมาใช้ตัดต่อบ่อยที่สุด


อันดับ 2 - ยายมาหา

... อันนี้ยังเล่นกับความน่ากลัวไม่เลิก ด้วยการให้เด็กชายคนหนึ่ง เล่าเรื่องน่ากลัวเกี่ยวกับยายตัวเองจะมาเอาชีวิต แกเลยหาทางรอดด้วยการบอกว่าให้ไปเอาชีวิตคนอ่านเมล์นี้แทน
ฉลาดมากหนุ่มน้อย ไม่ยักรู้ว่ายายเอ็งเล่นเน็ตเป็นด้วย เมล์นี้ยอมรับว่าน่ากลัวจริง แต่ก็ได้มาจนหายกลัวไปแล้ว
ถ้ายายอยากได้วิญญาณจริง ไปหาวิญญาณเป็ดไก่ตามตลาดสดจะเจอเยอะกว่านะยายจ๋า วันนึงเป็นร้อยตัวเลย


อันดับ1 - ฮ็อตเมล์เก็บตัง

... มาแล้วครับ กับอันดับยอดฮิตที่สุดบนโลกมนุษย์ เมล์นี้มีเนื้อหาบอกว่า ทางฮ็อตเมล์จะทำการเก็บเงินผู้ใช้เมลล์ @hotmail โดยผู้ส่งเมล์จะให้พวกเราช่วยกันฟอร์เวิร์ดไปเยอะๆ เค้าจะได้สงสาร และยกเลิกการเก็บตัง ' เมลล์แบบนี้ก็ได้มาตั้งแต่เล่นเน็ตสมัยแรกๆ แล้วถ้ามันเป็นจริง ก็นับว่าฮ็อตเมล์ใจดีมาก จะเก็บตังมาตั้งหลายปีแล้ว ก็ไม่เก็บสักทีเพราะมีคนฟอร์เวิร์ดเยอะ ว่าแต่มันจะรู้ได้ไงวะว่ามีคนฟอร์เวิร์ดน่ะหืม? แรกๆ มันเป็นแค่ข้อความ ต่อมานี้ลงทุนทำแบนเนอร์ปลอมที่มีสัญลักษณ์ฮ็อตเมล์ให้ดูน่าเชื่อถือขึ้น
ล่าสุดนี่สงสัยรู้ตัวว่าไม่ได้ผล เลยใส่เพิ่มลงไปในหัวข้อด้วยว่า
'คราวนี้เอาจริงแล้ว ฮ็อตเมล์จะเก็บตังเราแล้วล่ะ!' (มีการขู่ 555)

เคยลองทำเมล์ปลอมแบบนี้เหมือนกัน เพื่อให้เลิกส่งเมล์สไตล์นี้ โดยการใช้เนื้อหาว่าฮ็อตเมล์ต้องเสียเงินนับร้อยล้านดอลล่าร์เพิ่อแก้คดีคน เข้าใจผิดว่าเขาจะเก็บตัง และประกาศจะจับตัวผู้ที่ส่งเมล์ที่ทำให้ทางเขาเสียหาย นั่นคือใครฟอร์เวิร์ดเมลล์แบบนั้นอีก จะถูกตามรอยมา
ถึงบ้านและถูกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกันทุกคน ผลก็คือ FWD mail หัวข้อ 'ฮ็อตเมล์เก็บตัง' ก็ยังคงฮิตไม่เสื่อมคลาย

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..คนเรากลัวไม่ได้ใช้ฮ็อตเมลล์ มากกว่ากลัวถูกจับซะอีก 555
ทั้งหมดนี้เขียนขึ้นมาก็เพื่ออยากจะประกาศให้โลกรู้ว่า เมล์เนื้อหาแบบเนี้ย มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากแสดงให้คนรู้วาคุณโง่ เชื่อในเรื่องเหลวไหล และเพิ่มเนื้อที่เมล์ขยะในเมลล์บ็อกซ์ของคนอื่นโดยใช่เหตุ แถมเมล์บางอันก็ยังปลูกฝังความเชื่อผิดๆ ซะอีก (เช่นเมล์ชาเขียวเย็นอันตราย) เป็นการโจมตีคู่แข่งทางการค้าได้โดยไม่ต้องเสียตังอะไรเลย ใช้ประโยชน์จากคนโง่ๆ ที่หลงเชื่อนั่นแหละ

เลิกฟอร์เวิร์ดได้แล้ว เชื่อว่าใครที่เล่นเน็ตมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ก็เคยได้รับเมล์แบบนี้กันหมดแล้วล่ะ มาช่วยกันฟอร์เวิร์ดแต่เมล์เนื้อหาดีๆ มีคุณค่า อ่านแล้วถึงไม่ได้สาระก็ขอให้ได้ความสบายใจหน่อยเถอะนะ



*ปล. การ FWD กระทู้นี้ ไม่ทำให้ผลการเรียนคุณตกต่ำลง หรือทำให้คุณเป็นโสดตลอดชาติ มันไม่มีผลอะไรกับชีวิตคุณทั้งสิ้น นอกจากมีผลทำให้คนอื่นไม่ต้องได้รับเมล์ไร้สาระอีก ถ้าอ่านแล้วเก็บไว้คนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าช่วยกัน FWD ก็จะทำให้คนอื่นหายโง่ได้ซะที

อ่านต่อ..

พบ 3 ปลาไหล หลากสีเรืองแสง



วันก่อนชาวบ้านจำนวนมากพากันเดินทางไปบ้านเลขที่ 62 หมู่บ้านป่ายางมน หมู่ 2 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อดูปลาไหลประหลาดที่มีหลากหลายสี

เป็นปลาไหล 3 ตัว มีรูปร่างเหมือนปลาไหลทั่วไป ยาวราว 60 ซ.ม. แต่ทุกตัวมีสีสันไม่เหมือนปลาไหลทั่วไป เพราะมีหลากหลายสี ทั้งสีทอง สีเงิน และสีน้ำตาลสลับดำ

โดยตัวแรกมีสีเหลืองออกทอง ทั่วตัวมีจุดสีดำ ส่วนตัวที่สองเป็นสีขาวหรือเงินมีจุดสีดำขนาดใหญ่ไปทั่วตัว และตัวสุดท้ายมีน้ำตาลเหมือนปลาไหลทั่วไป แต่กลับมีลายสีดำสลับทั่วลำตัว

นายประพันธ์ โป่งคำ อายุ 39 ปี กล่าวว่า มีอาชีพเป็นคนขับรถแบ๊กโฮรับจ้าง เมื่อคืนก่อนนอนหลับฝันไปว่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นปลาไหล 3 ตัวไปอยู่ด้วย จงดูแลรักษาเอาไว้ให้ดีและหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้ โดยตัวที่มีสีน้ำตาลจะเป็นทาสรับใช้ปลาไหลอีก 2 ตัวที่มีสีทองและเงิน

เมื่อตื่นขึ้นไปทำงานรับจ้างขับรถแบ๊กโฮขุด ลำเหมืองที่หมู่บ้านสันมะนะ ต.แม่สาย อ.แม่สาย เวลาราว 15.00 น. ปรากฏว่าบุ้งกี๋หรือที่ตักของรถตักเอาปลาไหล 3 ตัวกอดมัดกันแน่นขึ้นมาจากดินจนสังเกตเห็นได้ชัด จึงหยุดเครื่องและเข้าไปเก็บปลาไหลประหลาดทั้ง 3 ตัวเอาไว้

กระทั่งเลิกงานก็รำลึกถึงเหตุการณ์ในฝันจึงได้นำไปเลี้ยงไว้ที่บ้าน

นายคฑาวุธ ปานบุญ นักวิชาการสถานีประ มงน้ำจืด จ.เชียงราย กล่าวว่า ปลาไหลอาศัยอยู่ในที่ลุ่มชื้นแฉะตามธรรมชาติ และการที่ผิวของปลาไหลจะเป็นผิวเผือกก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้จะพบได้น้อยมากก็ตาม โดยสาเหตุมาจากการที่ยีนด้อยปรากฏออกมามากกว่า จึงทำให้เกิดเป็นผิวสีเผือกเหมือนกรณีคนเผือก

ส่วนกรณีที่ทั้ง 3 ตัวนี้มีจุดกระดำอยู่โดยไม่ขาวเผือกหรือมีสีเดียวกันหมดทั้งตัว ก็เกิดจากการที่ยังมียีนเด่นคงค้างอยู่ แต่แสดงออกมาเพียงเล็กน้อยทำให้แลดูเป็นจุดๆ

ทั้งนี้ สำหรับคนในวงการประมงเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด


ที่มา : ข่าวสด

อ่านต่อ..

สิ่งที่ควรจะทำก่อนตาย "Before U die"

ขึ้นชื่อว่า “เสีย” แล้ว
ไม่ว่าจะ “เสียใจ” หรือ “เสียดาย”
คุณก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นใช่ไหมล่ะคะ
ถ้าเป็นเช่นนั้นจงทำสิ่งต่อไปนี้ก่อนที่มันจะสายเกินไป



1. Say “Love”
คำว่า “รัก” พูดง่ายนิดเดียว แต่อยู่ที่ว่าคุณกล้าที่จะพูดหรือไม่ คำว่า “รัก” คำเดียวสามารถสร้างปรากฏการณ์แห่งรัก สร้างความสัมพันธ์ที่ดี สร้างความรู้สึกสุขใจกับคนที่คุณรัก และอาจเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างให้กับชีวิตคุณด้วย ไม่เชื่อก็ลองดู

2. Married
การแต่งงานเป็นความฝันสูงสุดของผู้หญิงทั่วไป การได้มีสามีและลูกที่น่ารักช่วยเติมเต็มชีวิตของคุณให้มีความสุขสมบูรณ์ มีสายใยแห่งความเอื้ออาทรต่อกัน และยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าชีวิตนี้เราก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกรัก และมีค่าสำหรับใครคนหนึ่งเช่นกัน

3. Best Friend
เพื่อน...หาที่ไหนก็หาได้ แต่จะหาเพื่อนแท้สักคนนี่สิหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรซะอีก ไม่ว่าคุณจะทำอะไรถูกหรือผิด คุณจะเจอปัญหาหนักหนาสาหัสแค่ไหน เพื่อนแท้เท่านั้นที่จะอยู่เคียงข้างคุณ คอยเป็นกำลังใจ เป็นเพื่อนคู่คิด เป็นเพื่อนแก้เหงา เป็นคนที่ทำให้คุณสนุกสนาน เฮฮา หากคุณมีเพื่อนแท้แล้วจงรักษาเขาเอาไว้ให้ดี

4. Travel
หากชีวิตที่ผ่านมาคุณมัวหมกมุ่นอยู่กับการทำงานเพียงอย่างเดียว และซีเรียสกับการใช้ชีวิตว่าจะต้องเกิดประโยชน์อย่างนั้นอย่างนี้มากจนเกินไป พานแต่จะทำให้ชีวิตคุณไม่มีความสุข ในวันหยุดที่จะถึงนี้ลองหาสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน เพื่อเติมพลังชีวิตให้กลับมาสดใสมีชีวิตชีวาดีกว่าค่ะ

5. Drunk
ลองใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงดูสักครั้ง เติมชีวิตให้มีสีสัน เฮฮา ปาร์ตี้ให้สุดๆ กับเครื่องดื่มที่จะทำให้คุณลืมโลก ลืมปัญหา และความวุ่นวายในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ขอเตือนว่าอย่าเมาจนหัวทิ่มกันทุกวันนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณคงได้ลืมโลกใบนี้ไปจริงๆ

6. Live Without TV
ชีวิตคนเราทุกวันนี้โดนแทรกแซงจากสิ่งประดิษฐ์ และข่าวสารต่างๆ มากมายจนทำให้ชีวิตเรายุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดเวลาจนไม่มีเวลาได้อยู่กับตัวเอง โดยเฉพาะโทรทัศน์ที่มีกันแทบจะทุกบ้าน กลับบ้านปุ๊บเป็นต้องหยิบรีโมตขึ้นมากด และหมดเวลาไปกับการนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์และเปลี่ยนช่องดูไปเรื่อยๆ คุณลองอยู่อย่างไม่มีโทรทัศน์ดูสักวันสิคะ แล้วคุณจะรู้สึกว่าวันนั้นคุณทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับตัวเองได้มากทีเดียวค่ะ

7. Own House
บ้าน คือวิมานของเรา แต่หากเราไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านนั้นก็อาจไม่ใช่วิมานของเราก็ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองทำงานเก็บเงินและซื้อบ้านเป็นของตัวเองสักครั้งในชีวิต รับรองว่าคุณต้องภูมิใจและมีความสุขกับบ้านที่คุณได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอย่างแน่นอน

8. Forgiveness
เมื่อใดที่มีคนมาทำร้ายเรา หากเรามัวแต่โกรธและจ้องที่จะทำร้ายเขากลับ ความแค้นนี้คงไม่จบไม่สิ้นลงได้ง่ายๆ แต่คุณจงเข้าใจกับความจริงข้อหนึ่งที่ว่า ไม่มีใครหรอกที่จะไม่เคยทำผิดพลาด ไม่มีใครที่ดีพร้อม ถ้าเราเข้าใจความจริงข้อนี้ และยอมรับมัน เราก็จะมีความสุขกับชีวิตที่รู้จักการให้อภัยมากขึ้น

9. Be Happy
ชีวิตคนเราเกิดมาสั้นนัก ไม่รู้จะมานั่งเศร้าหมองให้ชีวิตห่อเหี่ยวไปทำไม จงมีความสุขและเอนจอยกับสิ่งที่ทำ หรือหากมีปัญหาที่ทำให้ทุกข์ใจ ก็อย่าได้ทุกข์กับมันซะนาน ทางที่ดีหาทางแก้ไขและอยู่กับมันอย่างแฮปปี้จะดีกว่าค่ะ

10. Donate Blood
การทำบุญอย่างหนึ่งที่ไม่ว่าคนรวยหรือคนจน ( ไม่เป็นเอดส์ ) ก็ทำให้เหมือนกันนั่นก็คือ การบริจาคโลหิตเพื่อต่อชีวิตให้กับคนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ คนคนนั้นอาจเป็นผู้นำครอบครัวที่หาเลี้ยงลูกเมีย หากขาดเขาไปสักคน ครอบครัวหนึ่งอาจต้องประสบกับความโหดร้าย ดังนั้นคุณจงภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนอีกหลายชีวิต แม้จะเป็นทางอ้อมก็ตาม

11. Donate Body
ขณะที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เราต่างเห็นสิ่งเลวร้ายและความสูญเสียมานับไม่ถ้วน แต่หากเรามีโอกาสได้ลองบริจาคอวัยวะเมื่อตายไปเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนที่ต้องการ คุณคิดดูสิคะว่ามันจะดีกว่าที่จะต้องเอาร่างที่ไร้วิญญาณนั้นไปฝังหรือไปเผากว่าเป็นไหนๆ เรียกว่า ตายไปก็ไม่เสียดายชีวิต จริงไหมคะ


ที่มา : FW mail

อ่านต่อ..

จ่ายเช็คช่วยชาติอีก 16 มิ.ย.

เช็คช่วยชาติ

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่กระทรวงการคลัง นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางพร้อมที่จะจ่ายเช็คช่วยชาติคนละ 2,000 บาท ให้แก่กลุ่มบุคคลที่มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท เพิ่มเติมอีก 6 กลุ่มอีกกว่า 5 แสนรายแล้ว โดยในรอบแรกนั้น ธ.กรุงเทพ จะพิมพ์เช็คลงวันที่ 16 มิ.ย.นี้ โดยหน่วยงาน ต่าง ๆ สามารถมารับได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป ส่วนกรณีดำเนินการไม่ทันในรอบแรกสามารถส่งข้อมูลได้จนถึงวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เพื่อออกเช็คอีกรอบวันที่ 29 มิ.ย. โดยหลังจากนั้นจะไม่จัดทำเช็คช่วยชาติเพิ่มเติมในลักษณะนี้อีกแล้ว สำหรับบุคลากร 6 กลุ่มที่จะได้รับเช็คช่วยชาติในรอบ 2 นี้ ประกอบด้วย บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงานรัฐวิสาหกิจ ครู บุคลากรด้านการศึกษาและบุคลากรอื่นในโรงเรียนเอกชน บุคลากรขององค์การมหาชน ทหารเกณฑ์ และบุคลากรขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ

“กลุ่มใหม่ที่มีสิทธิได้รับเช็คช่วยชาตินี้ ได้ส่งข้อมูลเข้ามาแล้วจนถึงวันที่ 9 มิ.ย. มีทั้งสิ้น 163,547 ราย เป็นเงิน 327 ล้านบาท จากที่ประมาณการไว้ 5 แสนราย เนื่องจากยังมีบางหน่วยงานที่ไม่จัดส่งข้อมูลเข้ามา เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้งนี้ มั่นใจว่ารายชื่อจะไม่ซ้ำซ้อนกันเหมือนรอบแรก ที่ยอมรับว่ามีการจ่ายเช็คให้บางคนที่ไม่มีสิทธิได้รับ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้เรียกคืนเช็ค มาแล้วและมีไม่มากนัก ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับเช็ครอบแรก อีกกว่า 1 หมื่นราย ซึ่งหากพ้นวันที่ 23 มิ.ย. นี้แล้วก็จะนำส่งคืนคลังต่อไป”.

ที่มา : เดลินิวส์

อ่านต่อ..

ร่างทรง'พุ่มพวง'เตือนเลิกทะเลาะกัน

อึ้งร่างทรงอ้างตัวเป็นพุ่มพวงโฟนอินจากเมืองนอก วอนลูกผัวญาติ ๆ เลิกทะเลาะกันครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. นายเกียรติศักดิ์ เหลืองวิไล กำนันตำบลบ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ในฐานะกรรมการวัดทับกระดาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คืนวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่นายไกรสร แสงอนันต์ หรือนายไกรสร ลีละเมฆินทร์ อายุ 52 ปี อดีตพระเอกภาพยนตร์ สามีของพุ่มพวง ดวงจันทร์ อดีตราชินีลูกทุ่งผู้ล่วงลับ นั่งจัดคิว ให้นักร้องที่มาร่วมแสดงมหกรรมคอนเสิร์ต พุ่มพวง ดวงจันทร์ อยู่นั้น จู่ ๆ ได้มี น.ส.เกศินี รักไพรรี อายุ 49 ปี หรือเจ๊แดง ร่างทรง จากเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้โทรฯ เข้าเครื่องโทรศัพท์มือถือของนายไกรสร เป็นเวลานานกว่า 48 นาที ท่ามกลางความประหลาด ใจของทุกฝ่าย

โดย น.ส.เกศินี อ้างตัวว่าเป็นร่างทรงของพุ่มพวง ทำเสียงสั่นเครือร้องไห้ร้องห่มบ่น ว่ารู้สึกเสียใจ ที่ลูก ผัว ญาติพี่น้อง เอาแต่ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ ซึ่งมันเป็นเวรกรรมของตนและครอบครัว แต่มีวิธีแก้เคล็ดด้วยการให้นายไกรสร ถือศีลกินเจ นุ่งขาว ห่มขาว เป็นเวลา 9 วัน แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีเอง ลูก ชายก็จะกลับมาอยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้อง และรู้สึกเสียใจมากที่พระลูกเพชรมาบวชที่วัดทับกระดานแล้ว ทำไมไม่มาเยี่ยมมาหาแม่พุ่มพวง ที่ศาลาทรงไทย ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าวิญญาณแม่ผึ้งสิงสถิตอยู่ที่นั่น โดยนายไกรสรที่ไม่เคยรู้จักกับร่างทรงดังกล่าว ได้รับปากจะทำตามคำบอกเล่าเพื่อความสบายใจ

ส่วนบรรยากาศที่ศาลาทรงไทยกลางน้ำหลังวัดทับกระดาน ผู้สื่อข่าวรายงานความเฮี้ยนไม่เลิกของ พุ่มพวง ว่าตั้งแต่เช้าคึกคักเป็นอย่างมาก มีนักเสี่ยงโชคและแฟนเพลงทยอยเดิน ทางมากราบไหว้รูปปั้น พุ่มพวง ซึ่งทางวัดได้จัดดอกไม้ ธูป เทียน ไว้บริการเต็มที่รวมทั้งมี นายประสงค์ ชัยช่อเพชร อายุ 37 ปี หรือเจ๊เมย์ ช่างแต่งหน้าชื่อดังในวงการสาวประเภทสอง แห่ง ร้านรัตนาชุดวิวาห์ ที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้นำชุดราตรีกระโปรงยาวสีดำสลับสีแดง พร้อมเครื่องประดับราคากว่า 3 หมื่นบาท มาเปลี่ยนให้ใหม่ พร้อมแต่งหน้า ทาเล็บ ทำผม ให้รูปปั้นพุ่มพวง จนสวยสดงดงามราวกับมีชีวิตจริงอีกครั้ง โดย เจ๊เมย์ บอกว่า เมื่อคืนฝันเห็นพี่ผึ้งมาหาฝากขอบคุณ แต่อยากให้ช่วยทาลิปสติกเป็นสีแดงเข้ม เพื่อให้เข้ากับสีชุดกระโปรง ตนรู้สึกตกใจสะดุ้งตื่นจึงรีบมาที่วัดทับกระดาน และทาลิปสติกสีแดงให้ตามความต้องการของ อดีตราชินีลูกทุ่ง.

ที่มา : เดลินิวส์

อ่านต่อ..

เปิดเทปลับก่อนตาย 'พุ่มพวง' ป่วยผัวไม่เคยดูแล



ขณะที่ "พระลูกเพชร" เปิดใจผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ระบุเข้าใจสาเหตุที่แม่ตาย เพราะทุกคนมัวแต่คิดถึงผลประโยชน์ เผยแม่ว้าเหว่ ท้อแท้ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต เสียงสุดท้ายร้องเพลง "ขอเพียงที่พักใจ"..

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (15 มิ.ย.) พระสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือพระลูกเพชร บุตรชายคนเดียวของอดีต "ราชินีลูกทุ่ง" พุ่มพวง ดวงจันทร์ เปิดเผยในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานร่วมรำลึก 17 ปี ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี ว่า ความตั้งใจแต่เดิมคือ เมื่อบวชแล้วจะนำเงินที่แฟนเพลงของโยมแม่ผึ้ง (พุ่มพวงดวงจันทร์) มาสร้างหุ่นขี้ผึ้ง แต่ทางโยมน้า พ่อ และลุงก็มาขัดว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะสร้างถึงแม้ว่าจะเป็นลูกก็ตาม นอกจากนี้ยังพูดจาดูหมิ่นวิญญาณของโยมแม่ ว่าไม่มีจริง อย่าเอาโยมแม่มาหากิน จึงได้ถามกลับไปว่าแล้วที่แฟนเพลงเขามากราบไหว้อยู่ทุกวันนี้คืออะไร แล้วที่บ้านของโยมยาย ก็มีหุ่นของโยมแม่ ขณะที่โยมน้าเองก็เคยพูดออกรายการว่า โยมแม่ผึ้งมาหา ตอนนี้ทำไมถึงบอกว่าโยมแม่ไม่มีจริง

"อาตมาไม่เข้าใจว่าทางนั้นจะมาขัดอาตมาทำไม ตั้งแต่อาตมาออกมาจากบ้าน ไม่เคยเอาเงินของโยมพ่อมาใช้แม้แต่บาทเดียว เงินที่โยมแม่ผึ้งหาไว้ให้ก็ไม่เคยเอามาใช้เลย ตรงนี้อาตมาไม่เข้าใจว่าพวกเขาเดือดร้อนอะไร" พระลูกชายของอดีตราชินีลูกทุ่งกล่าว และว่า ที่ทางพ่อ ลุง และน้าถามว่าทำไมไม่ปรึกษากันก่อน ก็เพราะรู้ว่าถ้าปรึกษา ก็จะต้องทะเลาะกันอย่างนี้

พระลูกเพชร กล่าวต่อว่า ที่พูดไปว่าโยมพ่อ โยมน้าๆ เป็นคนฆ่าแม่ผึ้ง ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดออกไป แต่ว่าแรงกดดันทั้งหมด 17 ปี ที่มี อาตมาตั้งใจจะเก็บความลับนั้นไว้ เพราะถ้าพูดไปทุกคนก็เสีย เทปลับ เดือน เม.ย. 2535 ที่โยมแม่พุ่มพวง บันทึกเสียงเอาไว้ ตอนนั้นอาตมา 5 ขวบ ทุกคนอาจจะคิดว่าอาตมายังเด็ก คงจะจำอะไรไม่ได้ แต่อยากจะบอกว่า ตอนนั้นโยมแม่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช อาตมามีโอกาสได้เจอโยมแม่แค่ 2-3 ครั้ง โยมพ่อก็พาขึ้นไป จ.เชียงใหม่ แฟนเพลงก็คงจะทราบกันดีว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างครอบครัวของโยมแม่ผึ้ง กับครอบครัวของโยมพ่อ ก็แปลกดีที่วันนี้ทุกคนจับมือกัน

"ในเทปโยมแม่พูดว่า โยมแม่ว้าเหว่ ท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต และก็ได้ร้องเพลงสุดท้าย คือ เพลงขอที่พักใจ เป็นเพลงของโยมพี่มาลีวัลย์ เจมีน่า ซึ่งโยมแม่ชอบมาก เป็นเพลงเดียวที่โยมแม่รู้สึกว่าโดนที่จิตใจของโยมแม่ ก็เลยร้องออกมา แต่ร้องได้ไม่จบ ไม่รู้ว่าถูกตัด หรือเทปหมดไปก่อน" พระลูกเพชร กล่าว

พระสรภพ กล่าวต่อไปว่า ความจริงมีกำหนดจะสึกในวันนี้ แต่ขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะสภาพจิตใจย่ำแย่ เหตุการณ์ในวันนั้น พูดได้ว่าทุกคนจ้องจะเล่นงานอาตมาจริงๆ ทุกคนจ้องจะมาฆ่าอาตมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นทางนายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ผู้ดำเนินรายการ ได้นำเทปบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 มิ.ย. ที่วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี มาเปิดอีกครั้ง เป็นเวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งตลอดเวลา พระลูกเพชร ได้นั่งชมด้วยสีหน้าสงบ จะกระทั่งจบ จึงกล่าวว่า "ณ วันนี้ อาตมากลัวพวกเขาแล้วล่ะ อาตมาเข้าใจแล้วว่า ทำไมโยมแม่พุ่มพวงถึงเสียไป เพราะทุกคนมัวแต่คิดเรื่องเงิน เรื่องผลประโยชน์ จนลืมคิดไปว่าโยมแม่พุ่มพวงเขามีชีวิตจิตใจ เขาต้องการคนที่มาแคร์ มาดูแลเขา แต่กลับกลายเป็น แต่ละคนหวังว่า ตัวเราเองจะได้อะไร อันนี้ทำให้อาตมาทราบว่า คนเราปัจจุบันนี้มีความเห็นแก่ตัวกันอยู่สูงมาก"

ในช่วงท้าย พระลูกชายของพุ่มพวง ดวงจันทร์ กล่าวด้วยว่า ชาติก่อนอาจจะทำกรรมไว้เยอะ ชาตินี้จึงต้องเผชิญอะไรหลายๆ อย่าง วันเสาร์ที่ผ่านมา อาตมาท้อ หมดกำลังใจว่า คงจะสร้างหุ่นโยมแม่ไม่ไหว จะสำเร็จหรือไม่ ก็คงขึ้นอยู่กับประชาชน แฟนเพลงของโยมแม่ว่าอยากจะให้เกิดขึ้นหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ทางรายการยังได้นำเทปบันทึกเสียงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่บันทึกไว้ก่อนเสียชีวิตมาเปิด ใจความว่า "ไม่รู้จะพูดยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความรู้สึกว่าตัวเองไม่สบายหนัก แต่ว่าสามีไม่ค่อยใส่ใจ เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ เกิดอายัดเงิน อายัดทองกันเข้า แต่ว่าถ้าไม่ทำมันก็ไม่ถูก เพราะว่าเราป่วยมาเป็นปี เขาไม่เคยใส่ใจ เขาไม่เคยดูแล ดูเหมือนกัน แต่ดูแบบ ตายก็ดี อยู่ยังไงก็ได้ ซึ่งในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์อายัดกันเข้า ซึ่งได้ทำใจไว้แล้ว ถามแล้ว ว่าอยากให้หายหรืออยากให้ตาย รู้ไหมคำตอบเขาบอกว่าไง แล้วแต่จะคิด แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่า จะทำให้จุดชนวนที่เราจะต้องเลิกกัน เพราะเรามีลูก แต่เหตุการณ์มันก็หนักขึ้นๆ ในเมื่อคนป่วยนอนป่วยอยู่ที่นี่ แต่ก็ผู้ป่วยไม่เคยได้เห็นลูก คนพูดนี้คือ ดิฉัน พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นนักร้อง ทุกคนคงพอรู้จัก"

ที่มา : ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แม่ตะเคียนเฮี้ยนให้หวยคนถูกทั้งหมู่บ้าน

เจ้าแม่ตะเคียน

ชาวบ้านเมืองกาญ พากันทำบุญเลี้ยงพระเพล พร้อมหนังดนตรีฉลอง 3คืน หลังถูกหวยงวดที่ผ่านมากันเกือบทุกเลข เผยที่ผ่านมาหากมีเรื่องทุกข์ร้อนขอเจ้าแม่จะให้สมปราถนาทุกราย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (12มิ.ย.) นายพิชัย ทองสิมา อดีต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมนางสำเนียง ทองสิมา ภรรยาและนายสุทัศน์ ถาวรวงศ์ พร้อมชาวบ้านประมาณ200กว่าคนได้ร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระเพลที่บริเวณศาลเจ้า แม่ตะเคียนทอง หมู่บ้านริมน้ำหลังอำเภอเขตหมู่5ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง โดยอ้างว่าคนที่พากันมาทำบุญเลี้ยงพระนี้ได้ถูกหวยงวดที่ ผ่านมากันเกือบทุกคนคือเลข 661 242 097 240 642 และ 26 ส่วนไม้ตะเคียนทองที่ชาวบ้านกราบไหว้บูชามีลำต้นโตขนาด 4คนโอบ และยาวประมาณ15เมตร

นางสำเนียง กล่าวว่า หลังจากที่ทำบุญเลี้ยงพระเพลแล้วพวกตนกับชาวบ้าน ยังได้จัดให้มีภาพยนต์ดนตรีฉลองอีก 3 คืนที่บริเวณศาลแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านมักจะพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าศาลแห่งนี้ คนที่ไปตกเบ็ดหาปลาใน ยามค่ำคืนมักจะเห็นหญิงผมยาวสวยงามยืนอยูหน้าศาล ซึ่งเชื่อกันว่าหญิงผู้นั้นก็คือเจ้าแม่ตะเคียนทองนั่นเอง นอกจากนี้แล้วชาวบ้านที่ศรัทธามีความทุกข์อะไรไปกราบไหว้อธิฐานบนบานแล้วมัก จะได้อย่างสมใจปรารถนากันเกือบจะทุกรายไป

ทั้งนี้ ภายในศาลดังกล่าวยังมี รูปเจ้าปั้นทำด้วยเรซินสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ใส่ผมยาวสวยงาม ซึ่งชาวบ้านบอกว่าองค์เจ้าแม่ตะเคียนทองนี้จ้างเขาทำ เป็นเงิน1หมื่น7พันบาท สวมใส่ชุดไทยยาวสวย งามและข้างๆองค์เจ้าแม่ยังมีคนนำชุดไปแก้บนโดยวางเอาไว้อีกจำนวนมาก

ส่วนงวดหน้าในวันที่16มิ.ย.นี้ชาวบ้านอ้างว่าขอเลขเด็ดเจ้าแม่ได้ทั่วหน้า ล่าสุด เจ้าแม่ตะเคียน ทองให้เลขงวดต่อไปเลข 28 และ 634 ทำให้บรรดาคอหวยต่างพากันจดเลขที่ได้นำไปซื้อสลากในงวดหน้าต่อไป


ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

พบจิ้งจกประหลาดมี 2 หัวตรงข้ามกัน ไม่มีหาง

เจอเรื่องแปลกๆ แบบนี้น่าจะถูกใจเซียนหวยนะคะ ยิ่งใกล้วันหวยออกแบบนี้ ใครจะตีเป็นเลขอะไรลองโพสแบ่งกันดูนะคะ ขอบคุณเนื้อหาข่าวจากไทยรัฐค่ะ

จิ้งจก 2 หัว

พบจิ้งจกประหลาดมี 2 หัวตรงข้ามกัน ไม่มีหาง ที่จันทบุรี โดยจิ้งจกมีประมาณ 3 นิ้วครึ่ง มีหัวอีกหัวอยู่บริเวณส่วนที่ควรจะเป็นหาง ลักษณะเหมือนจิ้งจก 2 ตัวหันหลังชนกัน เจ้าของเล่าฝันเห็นจิ้งจก 2 หัว และก็ได้มาจริงๆ แถมมีโชคลาภเข้ามาในชีวิต...

วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ยินเสียงร่ำลือว่า ที่บ้าน เลขที่ 6 ซ.พระยาตรัง 4 ถนนพระยาตรัง ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี มีจิ้งจก 2 หัว จึงรุดไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

พบนายจีรยุทธ เพชแก้ว เจ้าของบ้าน และเจ้าของจิ้งจกประหลาด 2 หัว เล่าว่า ได้เจอจิ้งจกดังกล่าในตอนกลางคืน เวลาประมาณ 2130 น. ของวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังกลับจากงานเลี้ยง เมื่อมาถึงบ้าน กำลังจะอาบน้ำ มองเห็น จิ้งจกประหลาด 2 หัว เกาะอยู่ที่มุ้งลวดในครัว จึงจับมาดู และใส่ถ้วยแก้วไว้ โดยที่จิ้งจกตัวดังกล่าวก็ไม่ได้หนีไปไหน จึงนำธูปมาจุดบูชา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า จิ้งจกดังกล่าว มีขนาดความยาวประมาณ 3 นิ้วครึ่ง มีหัวอีกหัวอยู่บริเวณส่วนที่ควรจะเป็นหาง ลักษณะเหมือนจิ้งจก 2 ตัวหันหลังชนกัน ซึ่งนายจีรยุทธ เล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ก็ได้ฝันว่าเห็นจิ้งจก 2 หัว และก็ได้มาจริงๆ จากนั้นจะมีโชคลาภเข้ามาในชีวิตตลอด โดยเจ้าของบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นเลย และมาเห็นที่บ้านของตัวเอง โดยถ้าใครอยากจะมาดูมาดูได้ที่บ้านเพราะว่าตอนนี้เลี้ยงไว้ และมันเริ่มจะอ่อนแรงแล้ว เพราะมันไม่กินอาหาร


ที่มา : ไทยรัฐ

อ่านต่อ..

Beta Glucan เบต้ากลูแคน